Home
|
ข่าว

ปธ.วิปค้าน ย้ำจัด 30 สส.ถล่มนโยบายรบ.คุยพปชร.แล้ว

Featured Image

 

 

 

 

ประธานวิปค้าน ย้ำจัด 30 สส.ถล่มนโยบายรัฐบาล อุบไฮไลท์พิเศษ ให้ความสำคัญทุกเรื่องที่สงสัย คุยพลังประชารัฐแล้ว

 

 

 

 

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะรักษาการประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมอภิปรายรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 12-13 กันยายนนี้ว่า ตามที่ได้ประชุมวิป 3 ฝ่าย โดยฝ่ายค้านได้เวลา 13 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะยังไม่มีการลำดับผู้อภิปราย แต่ในส่วนของพรรคประชาชนได้จัดวางเวลาให้ผู้อภิปรายกว่า 30 คน และพรรคเล็กที่ขอเวลาอภิปรายอีกเล็กน้อยลงตัวแล้ว

 

เมื่อถามว่าสรุปแล้วผู้อภิปรายได้คนละกี่นาทีหรือขึ้นอยู่กับประเด็นที่จะอภิปราย นายปกณ์วุฒิ กล่าวว่า ใช่ ก็เหมือนทุกครั้งของพรรคประชาชน เราไม่ได้จัดสรรโดยการเอาเวลามาหารแบ่ง แต่ขึ้นอยู่ประเด็นแล้วแบ่งเวลากัน

 

ส่วนไฮไลท์หลักของการอภิปราย นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ก็เป็นภาพรวมทุกสิ่งทุกอย่าง เราไม่ได้เจาะจงให้ความสำคัญกับอะไรเป็นพิเศษ เราอยากอภิปรายให้ครบถ้วนถึงนโยบายที่สำคัญๆ ของแต่ละนโยบาย ซึ่งอยากลงรายละเอียดที่ชัดเจนว่า สิ่งใดที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยังมีความสงสัยข้องใจในประการใด และให้เวลากับทุกประเด็นคงไม่ได้ไฮไลท์กับอะไรเป็นพิเศษ

 

สำหรับ 10 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า เมื่อวานนี้ทางวิปรัฐบาล บอกตอนแรกว่า ขอลดเวลาอภิปราย เพราะนโยบายเหมือนเดิม ตนเองก็ไม่เข้าใจว่าเป็นการออกตัวหรืออะไร แต่ส่วนตัว มองว่า 1 ปีที่ผ่านมาโจทย์ประเทศก็อาจจะมีเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

 

ซึ่งในเล่มแถลงนโยบายก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ้าง ดังนั้น สิ่งที่สำคัญคือเราอยากจะตรวจการบ้านว่า 1 ปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ต่อให้เปลี่ยนตัวนายกฯ แล้ว แต่ ครม.ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญขนาดนั้น รวมถึงการตั้งคำถามว่าอีก 3 ปีที่เหลือ จะสามารถทำตามนโยบายที่แถลงไว้ได้หรือไม่

 

ส่วนการที่ฝ่ายค้านไม่ได้ไฮไลท์ประเด็นที่จะอภิปราย จะถือเป็นการใจดีกับฝ่ายรัฐบาลเกินไปหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่าไฮไลท์ก็มีบ้าง แต่ขออุบไว้ก่อน ซึ่งไม่ใช่เอาเรื่องเดียวครึ่งวัน แล้วเรื่องอื่นใช้เวลานิดหน่อย และเราก็พยายามเฉลี่ยเวลา โดยสื่อมวลชนจับตาดูได้อยู่แล้ว บางเรื่องที่เราไฮไลท์อาจจะใช้เวลา 20-30 นาที ก็เป็นไฮไลท์ได้ แต่ยังไม่ขอบอกว่ามีเรื่องอะไรบ้าง

 

ส่วนการกำหนดการอภิปรายไม่ไว้วางใจล่วงหน้านั้น นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า ก็ต้องการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลก่อน และทราบว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีการเสนอชื่อผู้นำฝ่ายค้านก็ต้องรอให้มีการได้รับการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้าน และการพูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเท่าที่มีอยู่ เพื่อรอความชัดเจน

 

ส่วนการจัดสรรเวลาของพรรคพลังประชารัฐ นายปกรณ์วุฒิ เผยว่า เมื่อวานนี้มีการโทรมา และประสานไปทั้งวิปสองฝ่าย ซึ่งฝั่งตนเอง และวิปรัฐบาล ก็เห็นตรงกันว่า เราเป็นพรรคการเมือง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเหมือนกัน ดังนั้นทั้ง 2 ฝ่ายก็จะตัดเวลาบางส่วนให้พรรคพลังประชารัฐไปจัดสรรกันภายในพรรคเอง ยังไม่ได้ใช้เวลาจากฝั่งไหนโดยเฉพาะ โดยจากการพูดคุยอาจจะแบ่งฝั่งละ 15 นาทีโดยประมาณ

 

ทั้งนี้ ยังได้มีการถามถึงจุดยืนในการอภิปรายของพรรคพลังประชารัฐว่าจะไปในทิศทางไหน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เขาไม่ได้แจ้งตนเอง แต่เป็นการปนะสานมาเพื่อขอเวลาให้สมาชิกได้อภิปรายมากกว่า เราก็ไม่ได้ไปก้าวก่ายว่าจะอภิปรายเรื่องอะไร แต่ตนเองได้พูดคุยกับวิปรัฐบาลเรื่องการจัดสรรเวลา ส่วนเขาจัดสรรเวลากันอย่างไรก็เป็นเรื่องที่เขาจะตัดสินใจกันเอง

 

ส่วนหลังจากนี้จะต้องพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ในการทำงานร่วมฝ่ายค้าน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า คงต้องรอความชัดเจนว่า ตกลงแล้วถ้าจะบอกว่ามาอยู่ฝ่ายค้านก็ต้องบอกอยู่ฝ่ายค้านกี่คน

 

ซึ่งพรรคพลังประชารัฐต่อให้บอกว่ามี สส. 40 คน แต่จะมาเอาโควตาตาม สส. 40 คน แต่ตอนมาโหวตตามมติพรรคฝ่ายค้านไม่ถึงครึ่ง ก็คงไม่แฟร์ และไม่สามารถที่จะไปอธิบายให้กับพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ และคิดว่าควรจะต้องมีความชัดเจน หากยังไม่ชัดเจนจริงๆ ก็ไม่สามารถให้มามีส่วนร่วมอย่างเป็นทางการได้ แต่การพูดคุยประสายงานได้ปกติ และไม่ได้มีปัญหาอะไร

 

เมื่อถามถึงการที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ที่ออกบอกว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอรรถกร ศิริลัทยากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำผิดเรื่องการแทรกแซงข้าราชการ หลังมีภาพไปร่วมตรวจราชการร่วมกับ รมต.กระทรวงเกษตรฯ ชุดใหม่ นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า ตนเองไม่ได้มีความคิดเห็นอะไรในเรื่องนี้

 

ถ้าบางเรื่องเป็นเรื่องส่วนบุคคล นำมาวิพากษ์วิจารณ์กันก็ไม่มีปัญหา แต่หากไปเอาผิดถึงขั้นกฎหมาย ก็คงไม่ต่างอะไรจากการผิดจริยธรรม และความซื่อสัตย์ของตนเองเป็นที่ประจักษ์ และไม่ควรเอาเรื่องนามธรรม หรือเรื่องส่วนบุคคลมาใช้กฎหมายตัดสิน แต่หากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ก็ทำได้ เพราะประชาชนก็มีสิทธิอยู่แล้ว

 

สำหรับโควตากรรมาธิการต่างๆ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลจะต้องมีการจัดใหม่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า โควตา กมธ. เป็นโควตาของพรรคการเมืองอยู่แล้ว ไม่ได้แบ่งว่าพรรคการเมืองนั้นอยู่ฝ่ายไหน และเป็นไปตามจำนวน สส. เทียบกับจำนวน สส. ทั้งหมดอยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามโควตาของพรรคเขาอยู่แล้ว

 

ส่วนนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในสัดส่วนที่เป็นประธาน กมธ. ติดตามงบฯ นั้น นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า ตอนนี้นสยณัฐพงษ์ ได้ลาออกจากประธาน กมธ. แล้ว และได้ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน มานั่งประธานแทน ซึ่งนายณัฐพงศ์ ยังนั่งเป็นกรรมาธิการอยู่ แต่ไม่ได้เป็นประธานแล้ว เพราะมีภารกิจเยอะ และไม่สะดวกที่จะเป็นประธาน

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเลือกรองประธานสภาคนที่หนึ่ง ในสัดส่วนของพรรคประชาชน จะส่งตัดสินใจอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พรรคประชาชนจะมีการประชุม สส. ก็จะพูดคุยให้ได้ข้อสรุปกันอีกครั้ง เพราะยังไม่ได้รับความชัดเจนว่ากระบวนการจะเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนจะเสนอชื่อด้วยหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ต้องรอการหารือกันภายในพรรคก่อน และถ้าเราจะเสนอ เราก็ต้องเสนอพรรคประชาชนเอง

 

หากพรรคอื่นจะเสนอก็เป็นสิทธิของพรรคอื่น แต่แนวโน้มตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็สามารถออกมาได้ทั้งสองแบบ ก็ต้องรอถามความคิดเห็นจากเพื่อน สส. อีกครั้ง ว่าจะดำเนินเรื่องนี้ต่ออย่างไร

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube