ตำรวจ คาด พระติดถ้ำ เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ยังปลอดภัย แต่ตอนนี้ปริมาณน้ำไม่ลดจึงออกมาไม่ได้ ขณะเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเร่งช่วยเต็มที่
ความคืบหน้าล่าสุด ตำรวจ สภ.เนินมะปราง เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณี พระติดถ้ำ หลังมีพระภิกษุสงฆ์ เข้าไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานภายในถ้ำพระไทรงาม จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 ว่า ขณะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องมา กว่า 3-4 วัน แล้ว ทำให้เกิดน้ำท่วมขังตรงบริเวณปากทางเข้าถ้ำ พระภิกษุ จึงไม่สามารถออกมาได้
โดยเจ้าหน้าที่ต่างๆ ทั้ง ตำรวจ กู้ภัย กองทัพภาคที่ 3 และนักประดาน้ำ ได้ระดมกำลังพร้อมเครื่องมือเร่งช่วยเหลือตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2564 จนกระทั่งตอนนี้ ยังคิดหาวิธีเอาน้ำออกมาไม่ได้ หากมีฝนตกลงมาอีก แน่นอนว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก
เบื้องต้น นักประดาน้ำได้ลงดำน้ำลึกกว่า 10 เมตรแล้ว โดยต้นทางเข้าออกของถ้ำ ค่อนข้างมีระดับที่สูง ประกอบกับลักษณะบริเวณในถ้ำนั้น เป็นแอ่งกะทะทางยาว ประกอบกับพื้นที่โดยรอบมีโขดหิน การที่นักประดาน้ำจะเข้าไปนั้นค่อนข้างจะลำบากพอสมควร
ซึ่งในฤดูกาลต่างๆจะมีพระภิกษุ เข้าไปนั่งวิปัสสนากรรมฐาน ภายในถ้ำแห่งนี้ตลอด และมักจะมีประชาชน ญาติโยมนำอาหารมาถวายทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ฝนตกไว จึงทำให้ท่วมอย่างรวดเร็ว และปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
นอกจากนี้เมื่อ 10 ปีก่อน เจ้าหน้าที่ยังเคยลงพื้นที่สำรวจถ้ำมาแล้ว พบว่า อย่างไรก็ตามคาดว่า พระภิกษุ ยังคงปลอดภัย เพียงแต่ ณ ตอนนี้น้ำยังไม่ลดลงทำให้ไม่สามารถออกมาได้เท่านั้น
ปภ.พิษณุโลก ยัน ขณะนี้พบ พระติดถ้ำ แล้ว หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังเร่งช่วยเหลือหลายวัน พบป่วยมีไข้เล็กน้อย
นางเนาวงรัตน์ ดอกภาพันธ์ หัวหน้าสำนักงานบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่าล่าสุด ทางจังหวัดยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ได้พบ พระติดถ้ำ แล้ว เบื้องต้นพบป่วยมีไข้เล็กน้อย ซึ่งรายละเอียดต่างๆนั้นทางแพทย์อยู่ระหว่างการตรวจสุขภาพ
ทั้งนี้ พระมนัส ได้มาปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ ภายในถ้ำพระไทรงาม เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 โดยมีชาวบ้านนำอาหารไปถวาย แต่กลับพบว่า มีน้ำท่วมบริเวณปากถ้ำ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ กระทั่งพบตัวพระมนัสในที่สุด
Cr. Army times Thailand
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news