นายเคน ชายสัญชาติจีน พร้อมมารดา เดินทางมาร้องนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม หลังแต่งงานกับหญิงไทย มีลูก 1 คน แต่ถูกอดีตภรรยาชาวไทยออกอุบายบอกว่าจะเล่นการเมืองให้ไปหย่าปลอมๆ ก่อนพาผู้ชายคนใหม่เข้ามาขนของออกจากบ้านพร้อมหอบเงินกว่า 20 ล้านไปด้วย
นายเคนเล่าว่าตนรู้จักกับอดีตภรรยาเมื่อ 7 ปีก่อนหลังจากมาเที่ยวที่ประเทศไทย หลังจากนั้นไม่นานตัวอดีตภรรยาก็ได้ไปเที่ยวที่ประเทศจีนก่อนที่จะมีการคุยกัน และตกลงคบหากัน นายเคนได้เดินทางมาหาอดีตภรรยา ที่ประเทศไทยเดือนละ 1 ครั้ง ก่อนจะแต่งงานกันในช่วงเดือน ก.ย. 65 และมีลูกด้วยกัน 1 คน
ซึ่งที่มาร้องกับทนายตั้มวันนี้เพราะตัวภรรยานำทรัพย์สินภายในบ้านออกไป หลังจากที่ภรรยาได้เริ่มขนของออกจากบ้าน นายเคน และอดีตภรรยาเริ่มที่จะมีปากเสียงกัน โดยหลังจากนั้นภรรยาได้บอกนายเคนว่าจะลงเล่นการเมืองซึ่งอ้างว่าสนิทสนมกับผู้ใหญ่ทางพรรคการเมืองชื่อดังพรรคหนึ่ง โดยจะลง สส. ภรรยาก็บอกว่าจำเป็นที่จะต้องหย่า หาก ไม่หย่าจะติดคุณสมบัติในการสมัคร ตัวนายเคนจึงได้ตกลงที่จะหย่าเพราะหวังว่าอนาคตของอดีตภรรยาจะดีขึ้น
และเมื่อภรรยาขนของออกไปเรื่อยๆนายเคนจึงได้ตั้งข้อสงสัยถึงธุรกิจอีกหลายอย่างที่ได้มาตั้งสาขาในประเทศไทย และทราบภายหลังว่าหุ้นบริษัทภายในประเทศไทย ของนายเคน มีหุ้นอยู่เพียงแค่ 1% และ อดีตภรรยามีหุ้นทั้งหมด 99% ทั้งนี้เนื่องจากเอกสารทั้งหมดเป็นภาษาไทยและนายเคน ไม่ทราบภาษาไทยรวมถึงยังเชื่อใจ จึงให้ภรรยาเป็นผู้ดำเนินการ ก่อนทราบว่าถูกหลอกในภายหลัง
หลังจากหย่าไม่นานอดีตภรรยาก็เข้ามาขนของพยายามที่จะนำเหล้าและไวน์ ภายในบ้านรวมถึงนาฬิกา เงินสดภายในเซฟ ก่อนที่จะทะเลาะกันหลังจากนั้น ก็มีรถอีกคันขับตามเข้ามาเมื่อรถคันดังกล่าวจอดลงปรากฏผู้ชายคนนึงที่ลงรถมาและมีปากเสียงกันอีกครั้ง
ตัวนายเคนจึงตั้งข้อสงสัย ว่าชายคนดังกล่าวเป็นใครจึงได้สอบถามทางหมู่บ้านจนทราบว่า ทุกครั้งที่อดีตภรรยาเข้ามาภายในหมู่บ้านจะมีผู้ชายคนนี้มาด้วยเสมอ แจ้งกับรปภ.หมู่บ้านว่าเป็นสามีของอดีตภรรยาและเป็นเจ้าของบ้าน โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นตัวนายเคนจึงรู้สึกกลัวเพราะอดีตภรรยาได้ขู่ว่าจะดำเนินคดีหลายอย่าง และตนไม่รู้กฎหมายที่ประเทศไทยจึงเดินทางเข้าขอคำปรึกษากับทนายตั้ม
สำหรับทรัพย์สินตอนนี้ที่หายไปมีเงินสดในตู้เซฟ 20 ล้านบาท นาฬิกา กระเป๋า และสร้อยไข่มุก ส่วนอสังหาริมทรัพย์ประกอบด้วยบ้านย่านพระราม 2 ย่านบางแค และสุขุมวิท 31 เป็นบ้านพัก รวมถึงคอนโดย่านสาทร โดยชื่อผู้ถือครองทั้งเป็นอดีตภรรยาของตนเพราะตนเป็นคนต่างชาติจึงไม่สามารถถือครองได้โดยรวมมูลค่าทั้งหมดที่คาดการณ์ไว้เกิน 100 ล้านบาท
สำหรับแนวทางการต่อสู้นั้น จากที่ทราบอดีตภรรยานั้นทีทรัพย์สินจากหลายทางและจะทำการเช็คเส้นทางการเงิน และจะพาตัวนายเคนไปแจ้งความเรื่องการลักทรัพย์ที่อดีตภรรยาจะเอาไป และในวันดังกล่าวได้เข้ามาพร้อมสามีใหม่จึงจะแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์นั้นก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย เพราะเป็นของที่หามาได้ขณะจดทะเบียน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews