Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

นายกฯอิ๊งค์ แถลงนโยบาย ย้ำทำให้คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี

นายกฯเอาฤกษ์ เอาชัย เข้าสภาฯ-ทำเนียบ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนแถลงนโยบายรบ. แจง 10 นโยบายเร่งด่วน เดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต พร้อมย้ำทำให้คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี

 

 

 

 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารรัฐสภา เพื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยนายกรัฐมนตรีได้สวมชุดสูท และเสื้อเชิ้ตขาว จากนั้นได้นำพวงมาลัยสักการะศาลพระสยามเทวาธิราช พระเสื้อเมืองพระทรงเมืองพระภูมิชัยมงคล และศาลตายายประจำรัฐสภา

 

 

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้นั่งรถกอล์ฟ เพื่อไปสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประดิษฐานบนพระที่นั่งพุดตาน ณ พิพิธภัณฑ์รัฐสภา เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเดินทางเข้ารัฐสภาเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ โดยมีรายงานว่า เมื่อเวลา 05:45 น.พบขบวนรถของน.ส.แพทองธาร เดินทางเข้า ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นวันแรกที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเข้าห้องทำงาน โดยได้เข้าห้องทำงานครั้งแรก

 

 

พร้อมนำพวงมาลัยสักการะโต๊ะหมู่บูชาภายในห้องทำงาน และขึ้นไปสักการะพระพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นได้สักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ซึ่งการเข้าทำเนียบรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี
เป็นวาระส่วนตัวไม่มีการแจ้งต่อสื่อมวลชน

 

 

นอกจากนี้การประชุมร่วมกันของรัฐสภา เวลา 09:11 น. ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาเป็นประธานในที่ประชุม โดยน.ส.แพทองธาร ได้แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ว่า ประเด็นความท้าทาย
ที่ประเทศไทยต้องเผชิญความท้าทายอยู่หลายประการ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่โตน้อยกว่าศักยภาพจริง ปัญหาหนี้สินเรื้อรัง ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่รุนแรงขึ้น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาสังคมและการเมือง

 

 

ทั้งหมดนี้รัฐบาลพร้อมจะประสานพลังกับทุกภาคส่วน เปลี่ยนความท้าทายให้กลายเป็น “ความหวัง โอกาส และความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม” ของคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม รัฐบาลพร้อมเสริมศักยภาพ สร้างโอกาสให้ประชาชนทั้งบทบาทและสิทธิเพื่อพลิกฟื้นประเทศจากปัญหาที่รุมเร้าและนำพาให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

 

 

นายกรัฐมนตรี ได้ยกความท้าทาย โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ที่โตน้อยกว่าศักยภาพจริง ปัญหาหนี้สินเรื้อรัง ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่รุนแรงขึ้น ปัญหาสิ่งแวดล้อม และ สังคมและการเมือง ทั้งหมดนี้คือ “ความท้าทาย” ที่รัฐบาลพร้อมจะประสานพลังกับทุกภาคส่วน เปลี่ยนความท้าทายให้กลายเป็น “ความหวัง โอกาส และความเสมอภาค ทางเศรษฐกิจและสังคม” ของคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม

 

 

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายสำคัญเร่งด่วนเพื่อการเดินหน้าบริหารประเทศ 10 ข้อ ที่จะดําเนินการทันที ดังนี้ 1) ผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ 2) ดูแลและส่งเสริมพร้อมกับปกป้องผลประโยชน์ ของผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ SMEs 3) เร่งออกมาตรการเพื่อลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค อัตราค่าโดยสารร่วมรองรับนโยบาย “ราคาเดียวตลอดสาย” 4) สร้างรายได้ใหม่ของรัฐด้วยการนําเศรษฐกิจนอกระบบภาษี (Informal Economy) และเศรษฐกิจใต้ดิน (Underground Economy) เข้าสู่ระบบภาษี และนำไปจัดสรรสวัสดิการด้านการศึกษาอุดหนุนค่าใช้จ่ายพื้นฐานของประชาชน ฯลฯ 5) เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพให้ความสําคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก ผลักดัน “ดิจิทัลวอลเล็ต” (Digital Wallet) ซึ่งเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล และพัฒนาศูนย์ข้อมูลภาครัฐ

 

 

6) ยกระดับการทําเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นเกษตรทันสมัย ภายใต้แนวคิด “ตลาดนํา นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ฟื้นนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก 7) ส่งเสริมการท่องเที่ยว สานต่อการปรับโครงสร้างการตรวจลงตราทั้งหมดของประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอวีซ่า (วีซ่าฟรี) นำเทศกาลระดับโลกมาจัดในประเทศ? ดึงดูดนักท่องเที่ยว กระจายรายได้ 8) แก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร 9) เร่งแก้ปัญหา อาชญากรรมอาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ และ 10) รัฐบาลจะส่งเสริมพัฒนาศักยภาพ และจัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป สร้างความเท่าเทียมทางโอกาสและเศรษฐกิจให้แก่คนทุกกลุ่ม เป็นต้น

 

 

สำหรับภาพรวมการอภิปรายของฝ่ายค้านในวันนี้เน้นหนักไปที่โทนประเด็นการเมือง และเรื่องเศรษฐกิจ นำโดยนายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน อภิปรายภาพรวมนโยบายรัฐบาลน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายในเรื่องเศรษฐกิจ และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายประเด็นการเมือง ส่วนนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน จะอภิปรายปิดในวันพรุ่งนี้

 

 

ขณะที่ สว. จากเดิมลงชื่อ 57 คน ขณะนี้เหลือ 48 คน เนื่องจากมีหลายคนที่มีประเด็นซ้ำกัน ทำให้ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ในฐานะผู้ควบคุมการอภิปรายของ สว. ได้ร้องขอว่า ไม่อยากให้อภิปรายประเด็นซ้ำซ้อนกัน โดยผู้อภิปรายที่น่าสนใจ ได้แก่ นางอังคณา นีละไพจิตร อภิปรายเรื่องยาเสพติด นายปฏิมา จีระแพทย์ อภิปรายเรื่องการเช่าอสังหาริมทรัพย์ 99 ปี รวมถึงเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube