Home
|
ข่าว

“สว.ขวัญชัย” ซัดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ทำไม่ได้แน่

Featured Image

 

 

 

“สว.ขวัญชัย” อภิปรายนโยบายรัฐบาล สถานบันเทิงครบวงจร ไม่สามารถทำให้สัมฤทธิ์ผลได้ ชี้ ต้องใช้เวลา อาจจะทำให้ประชาชนเสียโอกาส เกิดปัญหาสังคม

 

 

การประชุมร่วมรัฐสภา พิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรี(ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 อยู่ในช่วงการเปิดให้สมาชิกรัฐสภาได้อภิปราย โดยในส่วนของสมาชิกวุฒิสภา นายขวัญชัย แสนหิรัณย์ สว. กลุ่มวิทยาศาสตร์ อภิปรายว่า การสร้างสถานบันเทิงครบวงจร ที่รัฐบาลประกาศเป็นนโยบายเร่งด่วน เชื่อว่า จะไม่สามารถทำให้สัมฤทธิ์ผลได้ภายใน 3-5 ปี หรือทันในรัฐบาลชุดปัจจุบัน เพราะต้องใช้เวลาในแต่ละขั้นตอนจำนวนมาก ทั้ง สถานที่จัดสร้าง การหาสถานที่ มีตัวอย่างจากการสร้างอาคารรัฐสภาที่พบว่าต้องใช้เวลาหาสถานที่ก่อสร้างนานหลายรัฐบาล นอกจากนั้นแล้วใครจะเป็นผู้ลงทุน การลงทุนจะใช้นานแค่ไหน จะใช้รูปแบบสัมปทาน 20 ปี ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะสัมพันกับการให้เช่า 99 ปีหรือไม่ นอกจากนั้น ประชาชนจะได้อะไรจากโครงการดังกล่าว แม้จะได้สถานที่ท่องเที่ยว ได้เล่นการพนันถูกกฎหมาย แต่อาจจะทำให้ประชาชนเสียโอกาส และเกิดปัญหาสังคม

 

นายขวัญชัย อภิปรายด้วยว่า ตนมีข้อสังเกตในการทำโครงการดังกล่าวว่า เป็นโครงการใช้เวลานาน ไม่สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วน เพราะสิ่งที่เร่งด่วนตอนนี้ คือ การแก้ปัญหาให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัย วาตภัยมากกว่า

 

ทั้งนี้ มีผลศึกษาจากประเทศเพื่อนบ้านทางตะวันออก ที่สร้างแต่เปิดไม่ได้ กลายเป็นเมืองร้าง หรืออย่างประเทศทางใต้ของประเทศเรา มีโครงการสร้างจนเสร็จและเปิดแล้ว แต่ไม่ผู้เช่าพื้นที่เพราะเศรษฐกิจมีปัญหาเรื่องเร่งด่วนสำหรับโครงการนี้ไม่น่าใช่ ดังนั้นขอให้รัฐบาลปรับรูปแบบใหม่ ให้สอดคล้องกับสภาพสังคม ลดความขัดแย้ง หรือทำให้เกิดความขัดแย้งน้อยที่สุด เพิ่มกลยุทธในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดกรพัฒนาอย่างเป็นธรรมชาติ

 

ด้านนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา อภิปราย โดยขอตั้งชื่อนโยบายรัฐบาลว่า “นโยบายคุณพ่อคิด คุณลูกทำ” พร้อมเน้นย้ำไปที่นโยบายเกี่ยวกับการดูแลผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งได้เสนอแนะให้เปลี่ยนกลยุทธ์จากการกีดกันต่างชาติเป็นการพลิกแพลง เปลี่ยนจากคู่แข่งเป็นคู่ค้า เช่น กำหนดแพลตฟอร์มต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจค้าขายกับคนไทย ให้จดทะเบียนบริษัทให้ถูกต้องเพื่อการจัดเก็บภาษี และควบคุมคุณภาพสินค้า และเสนอปรับปรุงกฎหมายให้เกิดความรวดเร็วฉับไว

 

นายพิสิษฐ์ อภิปรายถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติว่าตนต้องการเห็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ใดกระทำการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน เป็นเหตุให้ชำรุดทรุดโทรม เสื่อมโทรมเข้าลักษณะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยเอาไว้

 

เพื่อการป้องกันความแตกแยกและความสามัคคีของคนในชาติ หวังว่ารัฐบาลจะยึดยึดมั่นในคำแถลงนโยบายเกี่ยวกับ การพิทักษ์สถาบันไว้อย่างเคร่งครัด ไม่แก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในฐานะพสกนิกรไม่ยินยอมอย่างแน่นอน

 

ส่วน น.ส.วิธาวีร์ ปทุมสวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายถึงปัญหาหนี้ ว่า การปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ ระดมสรรพกำลังเพื่อช้วยแก้ปัญหาใหเกับประชาชาอย่างจริงจัง จริงใจ และทำจริงๆ ผ่านมาหลายสมัยมีการพูดกันเรื่องการแก้หนี้แก้จน ตอนนี้อาจจะต้องแก้ที่ผู้ออกนโยบายคือรัฐบาลว่า จะออกมาเป็นรูปธรรมอย่างไร ปัญหาหนี้สินเกิดขึ้นในสังคมไทยมานาน และปัญหานี้วันนี้ประเทศเราก็ยังแก้ไม่ได้ จากนโยบายรัฐบาลเห็นว่ามีการตระหนักถึงการเดือดร้อนของประชาชนจริง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาหนี้ได้อย่างยั่งยืน แต่โอกาสในการแสวงหารายได้ให้กับประชาชนยังขาดอยู่ จากสถานการณ์ความเปราะบางทางเศรษฐกิจ ที่เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ต้นทุนการเงินสูง และพฤติกรรมการก่อหนี้โดยขาดวินัยการเงิน

 

ทั้งนี้ แม้จะพยายามแก้ปัญหาโดยการปรับโครงสร้างหนี้ แต่ก็ยังเป็นปัญหาเดิมๆ ประชาชนไม่ได้รับข้อมูลที่ชัดเจน จากสถาบันทางการเงิน สาเหตุสำคัญคือไม่มีการบูรณาการร่วมกันในทุกภาคส่วน และออกนโยบายที่ชัดเจนตรงกันทุกธนาคาร แต่ขณะนี้นโยบายการปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาล ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนว่าจะทำอย่างไร รัฐบาลควรกำหนดให้ชัดเจน และมาตราการป้องกันไม่ให้เกิดหนี้ซ้ำในอนาคต

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube