นายกฯประชุมตั้ง ศปช. แก้ปัญหาน้ำ ภูมิธรรม นั่งประธาน ย้ำ เบื้องต้นให้กรอบเยียวยาเดิม สูงสุด 2.3 แสนบาท เร่งรัดจ่ายโดยเร็ว ก่อนเพิ่มเติมในส่วนอื่น เตรียมประชุมรายละเอียด 18 ก.ย. นี้ ส่วน ครม.พรุ่งนี้อนุมัติงบ 3,000 ล้านบาท ข่าวดีหนองคาย-น้ำโขงลด เจ้าพระยาระบายได้ดี กทม.ไม่ท่วม เผย ก.ย.- ไม่เก็บค่าน้ำค่าไฟ พื้นที่น้ำท่วม
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปช.) คณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม และจัดตั้งศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ กว่า 2 ชั่วโมง ว่า ได้มีการมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เป็นประธาน ศปช. และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธานฯ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะมีคณะกรรมการจากทุกหน่วยงานเป็นองค์ประกอบครบ เพื่อให้แก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ถ้ามีปัญหารวมถึงเรื่องการเยียวยาจะได้ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว โดยคณะกรรมการฯชุดนี้จะตั้งไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ส่วนสถานการณ์น้ำ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น้ำเริ่มมาทางอีสาน เมื่อคืนแม้จะมีฝนตกหนักทั้งทางเหนือแต่ปริมาณน้ำไม่ได้มีผลกระทบ และวันนี้หน่วยงานต่างๆเริ่มบอกทิศทางของน้ำ โดยเฉพาะจังหวัดที่น้ำกำลังจะไปให้มีการเตรียมพร้อมแจ้งประชาชนให้รับทราบว่าจะมวลน้ำเข้าไปในพื้นที่ว่าจะเก็บของหรือจะทำอย่างไร เคลี่อนย้ายอย่างไร และเตรียมตัวอย่างไรบ้าง โดยตนได้ย้ำชัดเจนว่าถ้าจะเกิดเหตุจริงๆ ให้ประชาชนได้รับทราบก่อน ให้แจ้งล่วงหน้าหลายวัน
เมื่อถามถึงสถานการณ์น้ำที่หนองคายขณะนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “น้ำลดลงแล้วค่ะ ตอนนี้” ส่วนการเตรียมพร้อมหลังจากนี้ที่น้ำโขงจะไหลลงไปที่จังหวัดอุบลราชธานีซึ่งเป็นจังหวัดสุดท้ายก่อนที่จะไหลลงสปป.ลาว มีการเตรียมพร้อมอุปกรณ์และเครื่องมืออย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราได้แจ้งไปหมดแล้วว่าน้ำจะมาในปริมาณเท่าไหร่ และเท่าที่ประชุมกันปีนี้ไม่ได้หนัก แต่จะมีน้ำที่ไหลผ่าน และตอนนี้กองทัพภาคที่ 2 ได้เข้าไปสแตนบายไว้หมดแล้ว
ส่วนที่น้ำโขงลดลงเป็นเพราะว่าจีนหยุดปล่อยน้ำจากเขื่อนหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จริงๆ แล้วเขาปล่อยน้ำในอัตราปกติ ไม่ได้มีส่วนให้ท่วมมากชึ้น อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ส่วนของกรุงเทพฯแม่น้ำเจ้าพระยามีศักยภาพมากพอ เพราะฉะนั้นกรุงเทพฯจะไม่ท่วมส่วนพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมแล้ว คาดว่า 3 วันทุกอย่างจะจบลง และแผนฟื้นฟูต่างๆจะทำให้กลับสู่สภาพเดิมให้มากที่สุด
เมื่อถามถึงมาตรการเยียวยา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราต้องดูกรอบการเยียวยาว่าจะสามารถปรับอย่างไรได้บ้าง แต่ตอนนี้ เราคิดว่าความรวดเร็วต้องมาก่อน จึงให้ใช้กรอบเดิมก่อนเพราะกรอบใหม่จะต้องใช้เวลาในการพิจารณา และเมื่อสักครู่นี้ได้พูดคุยกับกระทรวงมหาดไทยจะมีการยกเว้นค่าน้ำค่าไฟ 2 เดือน คือ เดือนกันยายน ส่วนเดือนตุลาคม จะลด 30 % เป็นแค่การตั้งไว้ หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นยืดยาวออกไป เราจะเพิ่มมาตรการอีก ซึ่งเราจะทำทันทีเพื่อซับพอร์ตประชาชน
ส่วนเรื่องของการซ่อมแซมบ้านเรือนได้พูดคุยกับทางกองทัพ ซึ่งระดมกำลังมาช่วยอย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เพียงพอ จึงได้ให้กระทรวงศึกษาธิการระดมนักเรียนอาชีวะมาช่วยกันนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งบประมาณที่จะใช้ในการเยียวยาเป็นกรอบเดิมไม่ต้องเข้าที่ประชุมครม.แล้ว สามารถดำเนินการได้เลย เพราะเราต้องการเรื่องความเร็ว ส่วนการช่วยเหลือเพิ่มเติมต้องมาดูในรายละเอียดว่าจะปรับเพิ่มอะไรได้บ้าง
ส่วนตอนนี้ยอดเยียวยาตามกรอบเดิมประชาชนจะได้หลังคาเรือนละเท่าไหร่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตอนนี้เต็มที่คือ 230,000 บาท นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จึงกล่าวเสริมว่า มีหมวดอื่นอีกประมาณ ?4-5 หมื่นบาท นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ยังมีงบกลางที่เราสำรองไว้สำหรับน้ำท่วม รวมถึงเรื่องของการเสียชีวิต จะใช้กรอบเดิมแต่เราจะพิจารณาเพิ่ม
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวซักถามในรายละเอียดนายกรัฐมนตรีได้ผลักไมค์ในนายภูมิธรรมช่วยตอบคำถาม ซึ่งนายภูมิธรรมยืนยันว่า ใช้กรอบการเยียวยาเดิมทุกอย่างแต่จะเร่งให้เร็วขึ้น หลังจากนั้นจะพิจารณาว่าจะเยียวยาเพิ่มเติมส่วนใดได้บ้าง ในที่ประชุม ศปช. ในวันพุธที่ 18 ก.ย.นี้ส่วนนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะต้องดูรายละเอียดว่าหน้างานพร้อมหรือไม่ และลงไปทำอะไร แต่ถ้ามีโอกาสจะไปอยู่แล้ว และเราก็ได้ส่งรองนายกฯลงพื้นที่ไปแล้วโดยมีการแบ่งงานให้กับทั้ง 4 รองนายกฯ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในที่ประชุม ศปช. นายกฯได้เห็นชอบอนุมัติงบกลางวงเงิน 3,000 ล้านบาท เพื่อเร่งเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยจะนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.วันที่ 17 ก.ย.นี้ เนื่องจากต้องการให้เงินเยียวยาถึงมือผู้ที่ได้รับผลกระทบเร็วที่สุด โดยผ่านช่องทางของกระทรวงมหาดไทย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews