ยอดผู้ลี้ภัยแม่ฮ่องสอนคงที่2พันคนภาพรวมปกติ
ผบช.สตม.ยัน สถานการณ์ผู้ลี้ภัย ใน จ.แม่ฮ่องสอน ยังปกติ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ยอดคงเดิมที่ 2,000 คน – ขณะผบ.ตร.จ่อลงพื้นที่ให้กำลังใจ ตรวจความเรียบร้อยในสัปดาห์นี้
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. เปิดเผยกรณี ผู้ลี้ภัย จากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเมียนมา มาอยู่ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังคงเป็นปกติ โดยจำนวน ผู้ลี้ภัย ล่าสุดยังคงเดิมอยู่ที่ประมาณ 2,000 คน
โดยกรณีนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะเป็นแม่งานร่วมกับหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งในส่วนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็เป็นหน่วยสนับสนุน ยืนยันสถานการณ์ในปัจจุบัน ยังไม่น่าเป็นห่วง เบื้องต้นทราบว่า ภายในสัปดาห์นี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางลงพื้นที่ไปยังจุดดังกล่าวเพื่อให้กำลังใจและตรวจดูแลความเรียบร้อย
ส่วนสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ผบช.สตม. เปิดเผยว่าไม่ได้เป็นห่วงแต่เฉพาะ ในจุดของ จ.แม่ฮ่องสอน แต่เป็นห่วงในภาพรวมทั้งประเทศ โดยถือเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันเพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดกระจายไปในวงกว้าง และทำให้สามารถกลับมาเปิดประเทศในการรับนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งขณะนี้ตม.เองก็มีความพร้อมแต่หากว่ายังเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ในลักษณะนี้ก็ยังคงจะทำให้ไม่สามารถเปิดประเทศได้ซึ่งก็จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ
ตม.ยืนยันอาการผู้ต้องกักที่รพ.สนาม ไม่น่าห่วง ส่วนใหญ่อาการดีขึ้น เตรียมผลักดันกลับประเทศ
พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยถึง ยอดผู้ต้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีจำนวนทั้งสิ้น 1,450 คน อยู่ที่อาคารผู้ต้องกักที่สวนพลู จำนวน 896 คน ที่อาคารผู้ต้องกักบางเขน 154 คน อยู่ที่โรงพยาบาลสนามชั่วคราวหลังสโมสรตรวจ 200 คน และ อยู่โรงพยาบาลสนาม บางเขน 200 คน
โดยในส่วนของโรงพยาบาลสนามได้รักษาโดยทีมงานแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค มีการตรวจสอบและควบคุมตลอดเวลา ซึ่งล่าสุดมีการโควิด-19 จนครบจำนวนแล้ว ส่วนใหญ่ไม่พบเชื้อแล้ว ตอนนี้ก็ได้มีการจัดทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมกันหารือนำผู้ต้องกักที่หายดีแล้ว ซึ่งมี Lab ที่ชัดเจน เตรียมผลักดันกลับประเทศต่อไป
โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ระบุถึงตัวเลขกลุ่มผู้ต้องกักที่รักษาหายแล้ว ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนจะต้องรอการยืนจากทีมแพทย์ผู้รักษาอีกครั้ง เนื่องจากจะต้องตรวจซ้ำหาโควิด-19 ซ้ำอีกรอบ เพื่อยืนยันว่าหายไม่พบเชื่อ เพื่อในการขั้นตอนการผลักดันจะได้ไม่แพร่ระบาดต่ออีก อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่ไปเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา พบว่าผู้ต้องกักส่วนใหญ่มีสุขภาพจิตดี และ แข็งแรง
ส่วนกรณีที่จะรับผู้ต้องกักเข้ามาเพิ่มเติมนั้น สั่งการกำชับพื้นที่ไปแล้วว่าหากมีการจับกุมต่างด้าวเพิ่มให้ประสานกับพื้นที่ไม่ต้องเคลื่อนย้ายมาที่กรุงเทพฯ แบ่งไปตามพื้นที่ความรับผิดชอบตามหลักของกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากการเคลื่อนย้ายจะทำให้โอกาสของการแพร่กระจายเชื้อสูง ส่วนเรื่องงบประมาณค่าอาหาร ก็ได้เบิกกับกระทรวงแรงงาน ซึ่งเป็นกองทุนต่างด้าวที่สนับสนุนอยู่ เชื่อว่าไม่มีปัญหาสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news