Home
|
ไลฟ์สไตล์

22 กันยายน วันคาร์ฟรีเดย์ (car free day)

Featured Image

          ปฏิเสธไม่ได้ว่า “รถยนต์” คืออีกหนึ่งตัวการสำคัญในการปล่อยมลพิษสู่อากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนและปัญหาสิ่งแวดล้อมมากมาย เนื่องในโอกาสที่วันนี้เป็น ‘วันคาร์ฟรีเดย์Car Free Day’ ที่ทั่วโลกรณรงค์ให้ลดการใช้น้ำมัน เพื่อลดการปล่อยมลภาวะทางอากาศที่เกิดจากการเดินทาง วันนี้ทางเราเลยอยากชวนทุกคนมางดขับรถ 1 วัน แล้วหันมาใช้บริการรถโดยสารกันบ้างดีกว่า 

จุดเริ่มต้นของ World Car Free Day

          จุดเริ่มต้นของการรณรงค์ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลนี้ เริ่มจัดขึ้นในช่วงที่เกิดวิกฤตน้ำมัน ในต้น ค.ศ. 1970 ทำให้นักอนุรักษ์ทั่วโลกเริ่มกังวลว่าทรัพยากรธรรมชาติสำคัญอย่างน้ำมัน จะไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนทั่วโลก จากความวิตกกังวลดังกล่าวจึงทำให้เกิด วันปลอดรถ หรือ คาร์ฟรีเดย์ (Car Free Day) โดยได้รับความร่วมมือจากหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก และในปี ค.ศ. 2005 ได้มีการจัดรณรงค์ชื่อ “In town without my car!” พร้อมกันใน 1500 เมืองทั่วโลก ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้ร่วมกิจกรรมมากกว่า 100 ล้านคน

          และในประเทศไทยของเรา ได้เริ่มรณรงค์กิจกรรม วันคาร์ฟรีเดย์ มาตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา และได้จัดกิจกรรมรณรงค์ต่อมาเรื่อย ๆ โดยในส่วนกิจกรรมวันคาร์ฟรีเดย์ (Car Free Day) ของแต่ละจังหวัด ได้มีการจัดกิจกรรมปั่นจักรยานเพื่อรณรงค์ให้คนทิ้งรถไว้ที่บ้าน แล้วออกมาทำกิจกรรมด้วยกัน ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนจำนวนมาก

จุดประสงค์ของ car free day 

          หลัก ๆ เลยจุดประสงค์ของการรณรงค์ วันคาร์ฟรีเดย์ Car Free Day ก็เพื่อจะได้เป็นการลดการใช้น้ำมัน ,ลดมลภาวะทางอากาศ ,ลดมลภาวะทางเสียง ,ลดความหนาแน่นของรถยนต์ในท้องถนน เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด และเมื่อมีคนใช้รถยนต์น้อยลงก็สามารถเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้ด้วย 

สรุปส่งท้าย

          จะว่าไป วันคาร์ฟรีเดย์ ก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่เราสามารถเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันได้ ในเรื่องของการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ฉะนั้น มาเริ่มเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้โลกเรากันเถอะ เริ่ม!

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube