จังหวะประเทศไทยยังอยู่ใน “ภาวะวิกฤติ” หลายลูป ทั้ง1.จาก “ภัยธรรมชาติ” น้ำท่วมที่ พายุลูกใหม่กำลังจ่อสร้างผลกระทบ ซ้ำวันนี้วันพรุ่ง ทั้ง2.ภาวะ “กำลังจำวิกฤติ” จาก “เศรษฐกิจ” ที่แม้ “รัฐบาลเพื่อไทย”
ตั้งแต่ช่วง “เศรษฐา” เป็นนายกฯ จะวางสเต็ปไว้กับการ “เตรียมรับมือ” ด้วย “นโยบายเรือธง”แจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อสร้าง “พายุหมุนทางเศรษฐกิจ” รับวิกฤติเศรษฐกิจโลกกับภาวะความไม่แน่นอนจากสงครามการเมืองของมหาอำนาจ ที่จะส่งผลกระทบไทยรวมถึง 3.วิกฤติการเมืองของรัฐบาล ที่อยู่ในอาการรุม ๆ แบบอย่าได้ล้ม อย่าได้พลาด เพราะมีคนจ้างซ้ำกับภาวะ “ศัตรูทั่วทิศ” ทั้งโจทก์เก่าของ “พ่อนายกฯ” อย่าง “ทักษิณ” ที่มีทั้งกลุ่มต้านระบอบทักษิณและ “กลุ่มบ้านป่ารอยต่อ” ทั้ง “โจทย์ใหม่” กับ “นายกอิ๊งค์” เอง จากภาพนักร้องทั่วไทย แห่จองกฐินร้องเรียน “องค์กรตรวจสอบ” ในองค์กรอิสระนับสิบเรื่อง
เรียกว่า “นายกฯอิ๊งค์” ในฐานะ “ผู้นำประเทศ” ที่รับไม้ต่อจาก “เศรษฐา”แม้จะรอดบ่วง “กับดักคนดี” ที่ “เศรษฐา” ไม่โดน “สว.250” สกัดแบบ “พิธา” แต่กลับมา โดนเรื่องตั้ง“รัฐมนตรีถุงขนม” ติดกับ “ความผิดจริยธรรมร้ายแรง”จาก คำวินิจฉัยของ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ที่ใช้ “สอย” เศรษฐา เพราะ “ลูกสาวคนเล็ก” ของ “นายใหญ่”ย่อมมี “ปราการ” หลายชั้นป้องกัน จากผู้คนที่รายล้อม ไล่ตั้งแต่ “พี่อ้วน-ภูมิธรรม” ที่แม้จะเป็นรมว.กลาโหมแต่ก็ต้องมา “ประกบ” นายกฯอิ๊งค์ แม้กระทั่ง “ทีมกุนซือ” ที่เพิ่งตั้งเมื่อวาน (18ก.ย.)ที่ยกมาจากสมัยรัฐบาลไทยรักไทยของ “ทักษิณ”นำโดย “พันศักดิ์” อดีตที่ปรึกษา “บ้านพิษฯ” สมัย “นายกฯน้าชาติ”
กระนั้นประเด็นที่กำลังกลายเป็น “ปัญหา” ของ “นายกฯอิ๊งค์” อันอาจส่งผลกระทบต่อไปกับ “ความเชื่อมั่น” ในตัว “ผู้นำ” ในการบริหารประเทศ ที่หลายฝ่ายเริ่มมองว่าไม่แต่ภาพ “เงา” ของ “ทักษิณ” ผู้เป็นพ่อ ที่อยู่เบื้องหลังจะเป็นปัญหา “ความไม่เป็นตัวเอง” แบบ “พ่อคิดลูกทำ”ยังมีเรื่อง “ความพร้อม” ของเจ้าตัวที่ต้องมาก่อนกาล เพราะ “อุบัติเหตุการเมือง” ของ “เศรษฐา”อย่างที่ปรากฏผ่านภาพ “การทำงาน” ในหลายช็อตกับความคิดความเห็น การสั่งการของนายกฯไม่ว่าจะเป็นการลงพื้นที่แก้ปัญหา “น้ำท่วม” ที่เชียงราย ที่ปรากฏฉาก “ดราม่า” หลายช็อต ซึ่งขยายต่อมาจากภาพการอ่านโพย แถลงนโยบายรัฐบาลในสภา
กระทั่งมาถึงช็อตล่าสุดวันนี้ (19ก.ย.) กับ “ภาพย้อนแย้ง” กับการที่ “นายกอิ๊งค์”มีการลงนามตั้ง “บอร์ดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ” หรือ คกก.นโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยตัวนายกฯ นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานเอง มี 4 รองนายกฯ เป็นรองประธานและมีรัฐมนตรี-ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ เป็นกรรมการ เพื่อเดินหน้าผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่เมื่อมีจังหวะ ที่ “นักข่าว” ไปถาม “นายกอิ๊งค์”
ในฐานะนายกฯกับประเด็น เมื่อวานธนาคารกลางสหรัฐ เฟด มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในรอบ4ปี ที่ถือเป็นการใช้ยาแรงเ ศรษฐกิจที่ “ช็อกโลก” และ ส่งผลกระทบกับไทยด้วยเช่นกันปรากฏว่า “นายกฯอิ๊งค์” กลับ “เฟดหลบ” ที่จะตอบเรื่อง “เฟด” ลดดอกเบี้ยจะมีผลกระทบกับไทยอย่างไร โดย “นายกอิ๊งค์” แค่หันมายิ้มสู้ พร้อมกล่าวว่า “สัมภาษณ์รัฐมนตรีดีกว่า เราแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีแล้ว”
เรียกว่าเป็นอีกช็อต ที่ “นักข่าว” ก็ไปไม่เป็น กับการหยิบประเด็นสำคัญมาสอบถาม “นายกฯ”ที่อาจจะต่างจากสมัย “นายกฯเศรษฐา” ที่สามารถยืนซดกับ “นักข่าว” แบบตอบได้ทุกเรื่องทุกประเด็นและรวดเร็วกับการรู้ทุกสถานการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นทั่วโลก ที่ปรากฏการณ์นี้นอกจากถูกเปรียบเทียบระหว่างนายกฯ คนก่อน ยังถูกมองย้อนไปถึง “นิด้าโพล”ที่สำรวจความเห็นประชาชนกับปมเงาของ “ทักษิณ” ที่ส่งผลกระทบกับ “นายกฯอิ๊งค์”กับความเชื่อมั่น อย่างที่วันนี้ “เทพไท” โพสต์FB ทำนองที่ไทยตามสิงคโปร์ไม่ทันเพราะมาจาก “ผู้นำ”
โดยยกเอาวิชชั่น และ เส้นทางการก้าวขึ้นมาบริหารของ นายลอว์เรนซ์ หว่อง (Lawrence wong)นายกรัฐมนตรี คนที่ 4 ของสิงคโปร์ ว่า ไม่แต่ความสามารถเฉพาะตัวยังต้องเรียนรู้งาน ไต่เต้าทางการเมือง ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆเป็นรองนายกรัฐมนตรี จนถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ผ่านการทดสอบความรู้ความสามารถ ความซื่อสัตย์สุจริต จนเป็นที่มั่นใจว่า สามารถนำพาประเทศ และเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั้งชาติได้
โดยเทพไทมองว่า ซึ่งผิดกับไทย ที่นายกฯ ไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมืองไม่ได้สั่งสมประสบการณ์ และพิสูจน์ความรู้ความสามารถให้ประชาชนเห็นเป็นที่ประจักษ์จนเป็นที่ยอมรับ แต่เป็นการผลักดันของผู้มีอำนาจทางการเมืองถ่ายทอดตำแหน่งทางการเมืองให้กับทายาททางการเมือง จึงทำให้ประเทศได้ผู้นำทางการเมืองที่อ่อนด้อยประสบการณ์ และขาดวิสัยทัศน์ ไม่สามารถแสดงความสามารถ หรือเป็นตัวของตัวเองได้
ทั้งวิชชั่น และแม้แต่การแถลงนโยบาย ที่ต้องอ่านสคริปต์และไม่สามารถที่จะแสดงภูมิรู้ในการบริหารประเทศได้เลย ต้องตกอยู่ภายใต้การกำกับชี้นำของพ่อ
ที่ส่งทีมมาประกบ เป็นพี่เลี้ยงช่วยทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
