5 ตัวแทนนายจ้าง ร่วมถกขึ้นค่าจ้าง 400 บาททั่วประเทศ ลั่นไม่กังวลถูกแทรกแซงจากการเมือง ซัดธงถูกตั้งมาแล้วก็ล้มได้ ลั่นไม่ขอเป็นตรายาง
การประชุมคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 (กรรมการไตรภาคี หรือบอร์ดค่าจ้าง) ที่กระทรวงแรงงาน วันนี้ (20ก.ย.67) มีการพิจารณาวาระสำคัญ คือ การปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำครั้งที่ 3 ของปี 2567 ซึ่งถูกเลื่อนมาจากการประชุมเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากกรรมการฯ สัดส่วนนายจ้างไม่ได้เข้าร่วมประชุม อย่างไรก็ตาม การประชุมในวันนี้ (20 ก.ย.) ปรากฏว่า กรรมการฯ ฝ่ายนายจ้างมาร่วมประชุมครบทั้ง 5 คน ประกอบด้วย น.ส.ศุภานัน ปลอดเหตุ นายณัฏฐกิตติ์ เขตตระการ นายอรรถยุทธ ลียะวณิช นางเนาวรัตน์ ทรงสวัสดิ์ชัย นายชัยยันต์ เจริญโชคทวี
โดยนายชัยยันต์ กล่าวว่า ทุกอย่างเราทำตามระบบตามตามระเบียบ ซึ่งการขึ้นค่าจ้างจะต้องผ่านการสรรหาและการคัดเลือก และการวิเคราะห์จากอนุกรรมการทุกจังหวัด ซึ่ง 77 จังหวัดมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน เมื่อผ่านขั้นตอนตรงนั้นจะมีการเสนอเข้าสู่อนุกรรมการวิชาการและกลั่นกรอง ซึ่งเป็นระบบไตรภาคี จากนั้นเสนอเข้าสู่คณะกรรมการค่าจ้าง
ซึ่งเราจะพิจารณาตามระเบียบ ตามสูตรที่มีการตกลงกันไว้ทั้งหมด ยืนยันเคารพกติกาทั้งหมด และยินดีให้ดำเนินการสิ่งที่ควรจะเป็น แม้ว่าคณะกรรมการค่าจ้างยังไม่มีการประชุม แต่เราไม่เห็นด้วยที่มีบุคคลไปออกสื่อ เพื่อชี้นำการขึ้นค่าแรง เนื่องจากคณะกรรมการไตรภาคีมาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้มาจากหน่วยงานของรัฐ ไม่เหมือนกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ
ส่วนมีความกังวลว่าการประชุมครั้งนี้จะถูกแทรกแซงการเมือง นายชัยยันต์ กล่าวว่า ไม่มีความกังวล เรามีความชัดเจนมาตลอด แม้หาว่าเราหนีการประชุม ซึ่งไม่เป็นจริง เราตระหนักดีว่าการประชุมมีการเลื่อน และเรื่องนี้มีการชี้แจงไปแล้ว ขอให้ทุกคนเข้าใจเพราะวันนี้ฝ่ายนายจ้างกลายเป็นจำเลยของสังคม
“เราไม่ได้กังวลกับสิ่งที่ท่านไปให้ข่าวก่อนหน้านี้ เพราะการจะพูดอะไรสามารถพูดได้ทั้งหมด ซึ่งฝ่ายนายจ้างเราไม่เคยให้ข่าวที่บิดเบือน ยืนยันว่า วันนี้เราจะพิจารณาตามกฎหมายตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541”
ส่วนการประชุมครั้งนี้เหมือนมีการตั้งธงเอาไว้แล้ว นั้น ธงอาจจะล้มก็ได้ เพราะตั้งได้ก็ล้มได้ การล้มธงไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เราอยากให้ทุกฝ่ายไตรภาคี ทำตามข้อตกลงภายใต้กฎหมายมาตราต่างๆในการปรับค่าจ้าง และที่ผ่านมาฝ่ายนายจ้างไม่เคยไปดึงเกม หรือในปี 67 ที่มีการปรับขึ้นค่าจ้างมันแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ที่ผ่านมาจะบอกว่าไม่เป็นไปตามกฎหมายก็ไม่ได้ เพราะเราอะลุ่มอล่วย เช่น ในปี 67
ซึ่งบางจังหวัดมีการเสนอตัวเลขมาแล้วถูกปรับลดลง และที่ผ่านมาจะเห็นว่าเราไม่มีการลดค่าจ้าง มีแต่เพิ่มให้ บางจังหวัดขึ้นแบบก้าวกระโดดก็เป็นการขอร้องจากภาครัฐ เพื่อต้องการดึงเศรษฐกิจในจังหวัดนั้นดีขึ้น ทั้งที่จังหวัดนั้นเป็นรายได้หลักของประเทศ ซึ่งเรายินยอมอะลุ่มอล่วยให้มาโดยตลอด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews