Home
|
บันเทิงไทย

โลกของซีรีส์เกิร์ลเลิฟพลิกอุตสาหกรรมบันเทิง

Featured Image

          ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีที่แล้ว ในอุตสาหกรรมบันเทิงไทยได้มีซีรีส์วายที่เข้ามาสร้างจุดประกายให้กับวงการซีรีส์ จนในปัจจุบันวงการบันเทิงไทยบ้านเราก็ได้เปิดกว้างมากขึ้น ในการเผยแพร่สื่อเกี่ยวกับ LGBTQIA+  ซีรีส์เกิร์ลเลิฟมาทำให้อุตสาหกรรมซีรีส์เติบโตอย่างรวดเร็วที่สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาลทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ จุดพลิกผันของซีรีส์เกิร์ลเลิฟมาจากอะไรกันนะ แล้วทำไมถึงทำให้คนหันมาติดตามซีรีส์หญิงและหญิงกันมากขึ้น วันนี้ไอเอ็นเอ็นพามาหาคำตอบ

ทำความรู้จักซีรีส์เกิร์ลเลิฟ ต้องเรียกอะไรนะ ?

          ง่ายๆเลยก็คือ เรียกว่า  แซฟฟิก (Sapphic) ความหมายครอบคลุมในคอมมูนิตี้ทุกความสัมพันธ์ของของคนที่เป็นผู้หญิงรักผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น เลสเบี้ยน (Lesbian) , ไบเซ็กชวล (Bisexual),  Omnisexual, เควียร์ (Queer) ,แพนเซ็กชวล (Pansexual) ,  นอนไบนารี (Non-binary) และรวมถึงทรานส์เจนเดอร์ ( Transgender) ฯลฯ   

จุดเริ่มต้นของซีรีส์เกิร์ลเลิฟของไทย

          หากจะพูดซีรีส์เกิร์ลเลิฟในไทยที่มาก่อนกาลที่เป็นซีรีส์หญิงและหญิง (Woman-Loving Woman: WLW) อย่างภาพยนตร์เรื่อง Yes or No อยากรักก็รักเลย หรือ ตัวละครก้อย ดาว จากซีรีส์วัยรุ่นในตำนานขวัญใจเด็กมัธยมสุดฮิตอย่าง Hormones ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น ก็ได้เสนอความเป็นหญิงรักหญิงในช่วงแรกๆบนหน้าจอ นั้นเป็นจุดเริ่มต้นการนำเสนอความหลากหลายทางเพศ รวมถึงซีรีส์และตัวนักแสดงก็เป็นที่รู้จักในต่างประเทศด้วยเช่นกัน แต่ถ้าพูดกันแบบตรงๆแล้วในตอนนั้นบริบทของสังคมไทยก็ยังไม่เปิดรับความหลากหลายทางเพศมากนัก 

ในยุคที่ปรับเปลี่ยน มาพร้อมโลกที่เปิดกว้าง

          เพราะไม่ใช่แค่ต้องเข้าใจตัวละคร แต่ต้องเข้าใจถึงคอมมูนิตี้นี้เพื่อที่จะถ่ายทอดตัวละครออกมาได้เข้าใจถึงตัวตนจริงๆด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากนั้นในอุตสาหกรรมบันเทิงที่ช่วยกันผลักดัน ไม่เพียงแต่การสนับสนุนจากนักแสดง ค่ายของนักแสดง ผู้จัด ผู้กำกับ แต่ต้องมาจากภาครัฐที่ผลักดันคอมมูนิตี้นี้เพื่อให้เป็นประโยชน์ และผลักดันให้เข้าใจความหมายของเพศได้อย่างแท้จริง

ความนิยมของซีรีส์เกิร์ลเลิฟ

          ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าซีรีส์ไทยเกิดขึ้นใหม่ทุกไตรมาส และประสบความสำเร็จไม่เพียงแค่ในประเทศเท่านั้น ทำให้เราเห็นว่าซีรีส์เกิร์ลเลิฟนั้นมีส่วนที่จะทำให้พลิกอุตสาหกรรมบันเทิงกลับมามีบทบาทในการสร้างสรรค์ละครและผลงานซีรีส์รวมถึงภาพยนตร์ในวงการบันเทิงไทยมากขึ้น ซึ่งความนิยมนั้นก็มาจากหลายปัจจัย

  • เคมีที่เข้ากันของนักแสดง มีส่วนที่ทำให้เกิดกระแสคู่จิ้น หรือเคมีในซีรีส์ที่เล่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโมเมนต์ข้างในจอหรือนอกจอ มักจะมีโมเมนต์ที่ทำให้แฟนๆรู้สึกถึงเคมีบางอย่างของนักแสดงเวลาอยู่ด้วยกัน นี่เป็นส่วนที่ทำให้ซีรีส์ประสบผลสำเร็จ เพราะไม่เพียงเฉพาะคนไทยเท่านั้น แต่ยังมีแฟนต่างประเทศอีกด้วย

 

  • บทและพล็อตของเรื่อง บทสนุกและน่าสนใจโดยทั่วไปที่นำมาทำเป็นซีรีส์ มักจะมีฐานแฟนๆของนิยายเรื่องนั้นๆรอติดตามอยู่ รวมถึงนักแสดงที่มาเล่นเรื่องนั้นก็ทำให้กระแสซีรีส์ทวีคูณให้ผู้ชมได้ดี 

 

  • โปรดักชั่น ที่สมจริงและการตัดต่อที่มีการพัฒนา ไม่ว่าจะฉาก เสื้อผ้า ซีรีส์มักจะเป็นที่จับตามองด้วยเช่นกัน อาทิเช่น เรื่อง ปิ่นภักดิ์ นำแสดงโดย ฟรีน สโรชา และเบ็คกี้ รีเบคก้าแพทรีเซีย อาร์มสตรอง เป็นซีรีส์พีเรียด ที่นำเสนอความเป็นไทยในยุคก่อนได้ดีอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าทรงผมของนักแสดงที่โชว์ความย้อนยุคของสมัยนั้น 
  • ประเทศไทยเปิดกว้างมากขึ้น เนื่องด้วยยุค 2024 ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่เปิดกว้างในเรื่องความหลากหลายของเพศ เพราะได้กฏหมายสมรสเท่าเทียมเป็นที่เรียบร้อยนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ ทำให้แฟนๆทั้งในไทยจนไปถึงต่างประเทศเขามามีบทบาทช่วยสนับสนุนซีรีส์ไปจนถึงตัวนักแสดงกันมากขึ้น

          ซึ่งความนิยมของซีรีส์เกิร์ลเลิฟเติบโตได้รวดเร็วแบบเกินคาด เห็นชัดจากกระแสของแต่ละเรื่องไม่ว่าเป็น ซีรี่ส์เรื่อง 23.5 องศาที่โลกเอียง ซึ่งนำแสดงโดย มิ้ลค์ พรรษา และ เลิฟ ภัทรานิษฐ์ ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่นำเสนอรักในวัยเรียนได้น่ารักและอบอุ่นใจ หรืออย่างซีรีส์ที่คนรอดูและเป็นนิยายที่คนตั้งตาชมกันเยอะอย่างหยดฝนกลิ่นสนิม (Petrichor The Series) นำแสดงโดย อิงฟ้า วราหะ และชาล็อต ออสติน   และช่องใหญ่อย่างช่องสามที่ทำละครมานานก็ปรับเปลี่ยนละครมาทำซีรี่ส์หญิงรักหญิงครั้งแรกอย่างเรื่อง ใจซ่อนรัก  (The Secret of Us) ที่นำแสดงโดยหลิงหลิง ศิริลักษณ์ คอง และออม กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์ ซึ่งจะมีซีรีส์เรื่องใหม่กับเรื่อง เพียงเธอ (Only You The Series) มาให้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง และยังมีอีกหลายๆเรื่องที่วงการซีรีส์ได้นำเสนออกมา

ยุคเปลี่ยน ความคิดเปลี่ยนของนักแสดงรุ่นเก่า

          ไม่ว่าจะนักแสดงหน้าใหม่ หรือนักแสดงในยุคนี้ ก็เปิดกว้างไปยังนักแสดงรุ่นวัยกลางคนที่อยากมารับบทบาทซีรีส์เกิร์ลเลิฟมากขึ้น ซึ่งเหมือนเป็นการท้าทายการแสดง และมองเห็นถึงคอมมูนิตี้ในยุคนั้นไม่ได้ยอมรับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เช่น หนิง ปณิตา และธัญญ่า ธัญญาเรศ ในเรื่อง ‘’Deep Night The Series คืนนี้มีแต่เรา” ถึงแม้ว่าจะในเรื่องนี้จะเน้นความเป็นซีรีส์วายแต่หนิงและธัญญาก็ได้เสิร์ฟความเป็นเกิร์ลเลิฟในซีรีส์มาด้วยเหมือนกัน

          ในบทสัมภาษณ์ในรายการหนึ่ง ที่นักแสดงอย่าง แอนทองประสม นักแสดงและผู้จัดละคร ได้ตอบคำถาม เกี่ยวกับการเล่นบทของเกิร์ลเลิฟ ซึ่งนี้ก็ทำให้เห็นว่า วงการซีรีส์เกิร์ลเลิฟเข้ามาพลิกบทบาทความคิดของตัวนักแสดง และทำให้วงการบันเทิง เปิดกว้างในเรื่องนี้มากขึ้น ไม่ว่าจะช่วงอายุและเพศใดก็ตาม

          ตลาดวงการซีรีส์ในปัจจุบันคงต้องยอมรับว่า ตอนนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนของวงการที่ต้องปรับตัว ในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งการทำซีรีสเกิลร์เลิฟนั้นทำให้เกิดผลดีต่ออุตสาหกรรม สังคมที่ได้เปิดรับและเปิดกว้างในเรื่องนี้  อย่างไรก็ตามในวันที่มันกำลังเติบโตขึ้น อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ผู้จัด นักแสดง ผู้ชม เข้าใจความหลากหลายและอัตลักษณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม ช่วยกันส่งเสียง ให้เห็นความสำคัญของคอมมูนิตี้ในไทย ไม่ใช่แค่หวังกระแสหรือหากินเพียงอย่างเดียว…

 

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก

https://lily-house.com

ขอบคุณบทสัมภาษณ์แอนทองประสม 

https://www.youtube.com/watch?v=cf6exNjNivY

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube