งดงามล้ำค่า มรดกภูมิปัญญา ศิลปวัฒนธรรม นวัตกรรมสังคม รวมศาสตร์ศิลป์ โนรา การแทงหยวก สู่พระแท่นที่ประทับพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยทักษิณ ปีการศึกษา ๒๕๖๖
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๖ จากมหาวิทยาลัยทักษิณ เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๓๕ น. ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุงซึ่งมีผู้สำเร็จการศึกษาประจำปีการศึกษา ๒๕๖๖ และเข้ารับปริญญา ระดับปริญญาเอก จำนวน ๑๓ คน ระดับปริญญาโท จำนวน ๑๐๖ คน และระดับปริญญาตรี จำนวน ๒,๖๕๖ คน รวมทั้งสิ้น จำนวน ๒,๗๗๕ คน ในการนี้ สภามหาวิทยาลัยทักษิณทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายปริญญารัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๖ แด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวซิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และมอบปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ ประจําปีการศึกษา ๒๕๖๖ จำนวน ๓ ราย และได้พระราชทานเกียรติบัตรเพื่อเชิดชูเกียรติคุณแก่บุคลากรตัวอย่าง ประจําปีการศึกษา ๒๕๖๖ จำนวน ๕ ราย
นอกเหนือจากพระราชพิธีอันทรงเกียรติแล้ว สิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือ ความงดงามของเวที พระแท่นที่ประทับพระราชทานปริญญาบัตร ซึ่งจะประดับประดา ตกแต่งอย่างสวยงามภายใต้แนวคิดต่างๆ ที่มักจะสะท้อนภูมิปัญญา ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี พิธีกรรม สังคม เพื่อให้สมพระเกียรติพระบรมวงศานุวงศ์และเป็นเกียรติแก่เหล่าบัณฑิต
สำหรับพระแท่นที่ประทับพระราชทานปริญญาบัตร และบริเวณเวทีในปีการศึกษานี้ได้นำเสนอเรื่องราว “นวัตกรรมสังคม” ที่ได้รวมศาสตร์ศิลป์ “โนรา” และ “การแทงหยวก” มรดกภูมิปัญญา ศิลปวัฒนธรรมล้ำค่าของชาวใต้ ประกอบด้วย ลวดลายการแทงหยวก เทริด เครื่องแต่งกายโนรา ลูกปัดโนรา และดอกไม้พื้นถิ่นใต้
แนวคิดการจัดแสดงองค์ความรู้ผ่าน “วัตถุมรดกภูมิปัญญา” จากตระกูลช่างและยุคของการทำเทริดและการสร้างลวดลายลูกปัดโนรา ยึดรูปแบบการร้อยลายลูกแก้วโบราณเป็นหลัก โดยปรับรูปแบบบางส่วนจากชุดโนราของสายตระกูลโนราเติม วิน วาด ตั้งแต่ปี พ.ศ.2502 มีลายลูกแก้วโบราณ และลายเส้นแบบสีธงชาติ พัฒนากลีบดอกให้มีความโค้งมน อ่อนช้อย สวยงาม เข้มขรึมเป็นสีม่วงประจำพระองค์ ซึ่งเป็นสีหลักในการเรียงร้อยลูกปัด เสริมด้วยสีอื่นๆ ในโทนสีที่ใกล้เคียงกัน ทำให้ดูสดใส สว่าง โดดเด่น ทันสมัย
ในส่วนของการแทงหยวกสกุลช่างจังหวัดสงขลา กลุ่มร่องลายไทย เป็นผลงานการสร้างสรรค์ศิลปะพื้นบ้านอันเกิดจากภูมิปัญญาในการสรรหาวัสดุทรัพยากรธรรมชาติรอบตัวมาสร้างสรรค์เป็นลวดลายเพื่อใช้ประดับตกแต่ง มีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของคนในสังคมไทยทุกระดับทุกชนชั้น ตั้งแต่ชาวบ้านธรรมดา กระทั่งถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ “การแทงหยวก” เป็นชื่อเรียกกรรมวิธีในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยการใช้มีดปลายเรียวแหลมคล้ายใบข้าว มีคมทั้ง ๒ ด้าน ที่เรียกว่ามีดแทงหยวก แทงฉลุกาบกล้วย
เป็นลวดลาย หรือเรียกว่า “การฉลุลายหยวก”
ลวดลายในการแทงหยวก เป็นลวดลายที่เกิดจากการฉลุแบบสด ๆ ไม่มีการร่างรูปแบบลายลงบนกาบกล้วย เป็นวิธีการฉลุเพื่อนำช่องไฟออกจะเหลือไว้เพียงส่วนของลวดลาย โดยจะต้องคำนึงถึงการฝากตัวลายไว้กับกาบกล้วยและส่วนที่คงเหลือของตัวลายเป็นสำคัญ ไม่นิยมการย้อมสี แต่จะให้ความสำคัญกับโครงสร้างของตัวลายและช่องไฟเป็นสำคัญ
สำหรับเวทีงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรจะนำการประดับลวดลายในแนวนอน ที่เรียกว่า ลายนอ มาใช้ประดับตกแต่ง รูปแบบลายจำแนกเป็น ๓ กลุ่ม ได้แก่ ๑) ลายเครื่องประกอบ ได้แก่ ลายกลีบบัวเล็ก ลายกลีบบัวใหญ่ ๒) ลายนอ ได้แก่ ลายลูกฟัก ๓) ลายปิดมุม ได้แก่ ลายพุ่มทรงข้าวบิณฑ์ ใช้สำหรับปิดตรงช่วงรอยต่อของหยวกในแต่ละแพ สีในส่วนของช่องไฟเกิดจากการนำสีจากกระดาษทองเกรียบมาสาบรองไว้ด้านหลังของกาบกล้วยที่แทงลวดลาย ซึ่งใช้กระดาษสีม่วงเป็นหลัก ประดับแทรกด้วยสีอื่นๆ เพื่อให้เกิดคุณค่าด้านความงามมากที่สุด เสมือนการประดับด้วยกระจกสีในงานประดับลวดลายงานสถาปัตยกรรมไทย
นับเป็นการผสมผสานของสองศาสตร์ศิลป์ที่งดงาม ลงตัว ก่อให้เกิดเป็นนวัตกรรมแห่งการสร้างสรรค์รูปแบบใหม่
ที่สะท้อนวิถีชีวิตผ่านวัตถุทางวัฒนธรรม และรูปแบบลวดลายสัญญะทางคติความเชื่อซึ่งเป็นมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรรมของชาติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews