ตำรวจ ช่วยเหลือครอบครัวชาวจีน เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลูกสาวถูกหลอกสูญเงินไป 8 ล้านบาท ส่วนพ่อแม่ถูกข่มขู่เรียกค่าไถ่ลูกสาว
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันติดตามตัวเพื่อช่วยเหลือ นางสาวซอง ซีฮัว (SONG XIUHUA) สัญชาติจีน สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ก.ย.2567 MS.LI JIANSHE หญิงสาวชาวจีนซึ่งเป็นมารดาของนางสาวซอง ซีฮัว ติดต่อมาขอความช่วยเหลือกับทางสถานทูตจีน ให้ช่วยติดตามตัว นางสาวซอง ซีฮัว ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่เยอรมันมานานกว่า 17 ปี โดยมารดาได้รับข้อความทางแอป We Chat เเจ้งว่า นางสาวซอง ซีฮัว ถูกกักขังอยู่ที่ไทย โดยคนร้ายมีการข่มขู่เรียกค่าไถ่ จำนวน 2.5 ล้านหยวน (คิดเป็นเงินไทย 12.5 ล้านบาท) ทางสถานทูตจีนจึงได้ประสานมาที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ให้ช่วยดำเนินการติดตามหาตัวนางสาวซอง ซีฮัว
เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนพบข้อมูลว่านางสาวซอง ซีฮัว เดินทางออกจากยอรมันนีตั้งเเต่ 15 ส.ค.2567 โดยมีปลายทางมาที่ไทย และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่สนามบินสุวรรณภูมิ พบนางสาวซอง ซีฮัว เดินทางมาโดยลำพัง จนท้ายที่สุด ตำรวจสามารถตามสืบจนเจอตัวอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งในซอยกิ่งแก้ว 40/1 ตำบลราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
โดย นางสาวซอง ซีฮัว ให้การว่าขณะที่ตนทำงานอยู่ในเยอรมันนี ได้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนโทรศัพท์มาหา อ้างว่าเป็นตำรวจจีน เเจ้งว่านางสาวซอง ซีฮัว ได้เปิดหมายเลขโทรศัพท์ที่ประเทศจีนซึ่งเป็นหมายเลขที่ใช้ในการหลอกลวงคนอื่นในลักษณะหลอกให้ทำงานพิเศษ เข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยมีการแจ้งความไว้และจะต้องถูกดำเนินคดีจากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้พูดจาหว่านล้อม ให้นางสาวซอง ซีฮัว โอนเงินเข้ามายังบัญชีของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพื่อทำการตรวจสอบ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 8 ล้านบาท โดยเป็นการโอนไปบัญชีธนาคารปลายทางในประเทศจีนและบัญชีธนาคารประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป
จากนั้นก็ได้หลอกลวงนางสาวซอง ซีฮัว ซ้ำอีก โดยให้นางสาวซอง ซีฮัว เดินทางมาที่ไทย ให้รายงานตัวยืนยันที่พักของตนเองทุกๆ วัน ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.67- 24 ก.ย.67 รวมเป็นเวลากว่า 40 วัน เปลี่ยนที่พักรวม 8 แห่ง
ทั้งนี้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังได้นำข้อมูลของนางสาวซอง ซีฮัว ที่ถูกหลอกให้มาอยู่ที่ไทย นำมาใช้ข่มขู่แม่ของนางสาวซอง ซีฮัว อีกด้วย โดยคนร้ายมีการนำข้อมูลไปกล่าวอ้างเพื่อเรียกค่าไถ่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
