ปิดตำนาน! 3 แข้งจอมเก๋าฟุตซอลไทย หลังประกาศอำลาทีมชาติ
ปิดตำนาน! 3 แข้งจอมเก๋าฟุตซอลไทย หลังประกาศอำลาทีมชาติ
กีฬาขั้นเทพ วันนี้จะพาไปดูความเคลื่อนไหวของ ฟุตซอลทีมชาติไทย ภายหลังจากพ่าย ฝรั่งเศส 2-5 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตซอลโลก 2024 ที่ประเทศอุซเบกิสถาน นับเป็นการตกรอบดังกล่าว 4 ครั้งติดต่อกัน ต่อจากปี 2012, 2016 และ 2021 ไม่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตซอลโลก ครั้งแรกได้แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา ซึ่งจากเกมดังกล่าวยังเป็นแมตช์สุดท้ายในนามทีมชาติของ 3 แข้งจอมเก๋าของฟุตซอลทีมชาติไทยอีกด้วย เมื่อล่าสุด “เจ้าเนิร์ส” จิรวัฒน์ สอนวิเชียร, “กัปตันช้าง” กฤษดา วงษ์แก้ว และ “อาร์ม” ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ได้พร้อมใจออกมาประกาศอำลาทีมชาติเป็นที่แล้วร้อยแล้ว
โดยเจ้า “เนิร์ส” จิรวัฒน์ สอนวิเชียร กัปตันฟุตซอลทีมชาติไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ขอบคุณ และอำลาทัพโต๊ะเล็กช้างศึกอย่างเป็นทางการ ปิดฉาก 16 ปีที่รับใช้ทีมชาติ โดยระบุว่า “มันจบแล้วครับนาย แล้ววันนี้ก็มาถึงจนได้ ผมขอขอบคุณผู้บริหารทีมงานทุกคน ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่ได้ร่วมกันต่อสู้กันมาตลอด ขอบคุณรุ่นพี่ที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้ผม ขอบคุณทุกกำลังใจที่คอยสนับสนุนพวกเราไม่ว่าตอนสมหวังหรือผิดหวัง ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมมีความสุขและภูมิใจทุกครั้งที่ได้สวมเสื้อทีมชาติไทยลงสนาม มันคือ ความฝันที่เป็นจริงของเด็กต่างจังหวัดอย่างผม”
สำหรับ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ปัจจุบันอายุ 35 ปี ติดทีมชาติไทย มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2008 ลุยฟุตซอลโลก 4 สมัย(2012,2016,2021,2024), คว้ารองแชมป์เอเชีย 2 สมัย(2012,2024) เป็นนักเตะไทย คนแรกยิงประตู 7 เกมติดต่อกัน จำนวน 8 ประตู ในศึกเวิลด์คัพ, นักเตะไทยคนแรกประวัติศาสตร์ คว้ารางวัลดาวซัลโวสโมสรเอเชีย 2 สมัยติดต่อกัน 2016 (7ประตู) , 2017 (9 ประตู) และมีชื่อติด 1 ใน 10 นักฟุตซอลยอดเยี่ยมของโลก ปี 2017
ปัจจุบันเจ้าตัว ยังรับราชการเป็น รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สน.คันนายาว โดยติดยศ ร้อยตำรวจเอก และยังเป็นหนึ่งในทีมตำรวจอารักขา เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี อีกด้วย
มาต่อที่ “กัปตันช้าง” กฤษดา วงษ์แก้ว นักฟุตซอลจอมเก๋าทีมชาติไทยวัย 36 ปี เป็นอีกคนที่ออกมาประกาศอำลาฟุตซอลทีมชาติไทยเช่นกัน โดยเจ้าตัวออกมาโพสต์ข้อความร่ายยาว ขอบคุณแฟนๆ ปิดฉาก 16 ปี ในการรับใช้ทีมชาติ ระบุข้อความว่า
“การเดินทางของเด็กคนหนึ่งที่ค่อยๆเติบโต มีรอยยิ้ม มีคราบน้ำตา มีเหนื่อย มีท้อแท้ แต่เด็กคนนั้นกำลังเติบโตกับทุกเรื่องราวที่ผ่านมา”
“ขอบคุณ พ่อ-แม่ และครอบครัวญาติพี่น้องของผม และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และคนบ้านโป่ง-ราชบุรี และพี่น้องชาวไทยทุกคนที่ชื่นชอบในตัวผมและผลงานในสนาม พวกคุณทุกคนคือคนสำคัญในตัวผมทำให้ผมมีกำลังใจทุกครั้งในการลงเล่นและต่อสู้เพื่อชาติไทยเรา แพ้-ชนะ คุณทุกคนก็ยังเป็นกำลังใจให้ผมมาตลอด พวกคุณทุกคนคือส่วนสำคัญต่อทีมชาติไทยเหมือนกัน
เสียสละเวลาส่งเสียงเชียร์ในสนามตลอดเวลา” “ขอขอบคุณพี่ป๋อม คุณ อดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจและสร้างฟุตซอลไทยมาอย่างยาวนาน ขอขอบคุณสโมสรชลบุรีบลูเวฟ ที่ได้ให้โอกาสผมได้เล่นลีคจนมีรายชื่อเข้าสู่ทีมชาติไทย เป็นความฝันสูงสุดของเด็กคนหนึ่งแล้ว”
“ขอบคุณโค้ชทุกๆคนและทีมงานทุกๆท่าน ขอบคุณพวกพี่พี่รุ่นเก่าทุกๆคนที่บุกเบิกฟุตซอลไทยมาจนถึงรุ่นผมและน้องๆ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้พวกผม ขอบคุณเพื่อนๆน้องๆที่ช่วยกันสู้ ขอบคุณ รองเท้า Panfutsal Thailand ที่สนับสนุนผมมาโดยตลอด ตั้งแต่ผมเริ่มเล่นฟุตซอล ผมทำผิดพลาดอะไรไป ทำตัวไม่น่ารักบ้างผมขอโทษทุกๆคนด้วยนะครับ ผมภูมิใจทุกครั้งที่สวมใส่เสื้อทีมชาติไทยลงสนาม”
สำหรับ กฤษดา วงษ์แก้ว สร้างผลงาน ไว้กับวงการฟุตซอลไว้มากมาย ไล่ตั้งแต่เป็นแชมป์ “ฟุตซอล ไทยลีก” 10 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 5 สมัย, แชมป์สโมสรเอเชีย 2 สมัย, แชมป์สโมสรอาเซียน 1 สมัย พร้อมติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ตั้งแต่อายุ 21 ปี ลงแข่งขัน เอเชียน อินดอร์เกมส์ 2009 ที่ประเทศเวียดนาม ยาวมาจนถึงปัจจุบัน และได้ลุยฟุตซอลโลก มาแล้วถึง 4 สมัย
ปิดท้ายที่ “เจ้าอาร์ม” ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง พ่อมดฟุตซอลไทย รุ่น 2 ประกาศอำลาทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการอีกคน โดย “อาร์ม” โพสต์รูปตัวเองผ่านอินสตราแกรมส่วนตัวระบุว่า “รูปสุดท้ายที่สวยงาม จะอยู่ในความทรงใจตลอดไป”
สำหรับ ศุภวุฒิ รับใช้ทีมชาติไทยมานาน 16 ปี ยิงรวม 240 ประตู ลงเล่นในฟุตซอลโลกรอบสุดท้าย 4 สมัย (2012, 2016, 2021 และ 2024) คว้ารองแชมป์เอเชีย 2 สมัย, ยิงประตูในฟุตซอลโลก 15 ลูก 11 แอสซิสต์ จาก 16 เกมที่ลงเล่น และยังเป็นคนแรกที่คว้าแชมป์เอฟลีกญี่ปุ่น 2 สมัยซ้อน พร้อมจัดไปแฮตทริก 1 ครั้ง และ หนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์ที่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมทวีปเอเชีย ประจำปี 2013 อีกด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews