ทำท่าว่าจะเพิ่มยอดของเหล่า ผู้จองกฐิน “รัฐบาลอิ๊งค์”มาอีกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมนอกจากปม “คนชั้น14”ที่ “ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลยังไม่เลิกเกาะติดแถมกำลังมีความพยายามอินโทรปม “คดีที่ดินอัลไพน์”ที่ก่อนหน้านี้มี “นักร้อง”ไปยื่นร้องไว้กับปม “คดีตากใบ” ที่ล่าสุด ผุดมาอีกเรื่องที่จ่อว่าจะบานปลาย คือกรณี “คดีตากใบ” ที่จะหมดอายุความ แต่ปรากฏว่ามี “ผู้ต้องหาในคดี”ไม่ไปตามหมายเรียก และทำท่าจะหนีคดี จนศาลนราธิวาสมีการออกหมายจับ โดยคนที่ถูกจับตาและเป็นประเด็นคือ “พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี” อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ส.ส.เพื่อไทย ที่ปรากฏว่ามีการพบว่ามีการยื่นลาป่วยไปรักษาตัวต่างประเทศจนถูกหลายฝ่ายออกมาวิจารณ์ ผู้เกี่ยวข้องทำนองรู้เห็นเป็นใจหรือไม่
อย่างที่ “กัณวีร์ สืบแสง” จาก พรรคเป็นธรรม บอกว่า รู้สึกตกใจมากสำหรับ กรณี “พล.อ.พิศาล” ที่ ถูกออกหมายจับ เพราะทำให้เห็นว่า จากภาพที่ดูซับซ้อน
ของการหายตัวไปของ พล.อ.พิศาลฯ จำเลยที่ 1 คดีตากใบ โดย เมื่อดู timeline แล้ว คงต้องมีคนรับผิดชอบในกรณีดังกล่าว และหากเป็นคนที่อยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติแล้วจะไม่สามารถแก้ตัวได้เพราะเป็นเรื่องของกฎหมายที่ต้องเคารพ และ ว่า มาถึงบางอ้อว่าทำไมหา พล.อ.พิศาลฯ ไม่เจอ !! ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.67 แล้ว ซึ่งคำถามที่สำคัญ คือ “ใครให้ไป ใครอนุญาตให้ไปเพราะถือว่ายังเป็น สส. การอ้างเหตุผลด้านการแพทย์ และต้องออกนอกประเทศ หลังศาลจังหวัดนราธิวาสรับฟ้อง 3 วัน ฟังขึ้นหรือไม่ ก่อนหน้าที่ศาลจะรับฟ้อง ทำไมท่านยังอยู๋ในสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่ปกติ
“กัณวีร์”ระบุด้วยว่า การอนุมัติการลาสมัยประชุมสภาฯ นั้นทางปฏิบัติคือท่านรองประธานสภาคนที่ 1 โดยการมอบหมายของท่านประธานสภาฯ เรื่องนี้ทั้งขึ้นทั้งร่องครับ ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ปล่อยไปได้ยังไง เต็มที่ก็ต้องให้ พล.อ.พิศาลฯ ลาออกไปก่อนหากจะปล่อยไปอย่างนี้ ไม่งั้นหลัง 30 ต.ค.67 คดีหมดอายุความก็สามารถกลับมาทั้งเป็นผู้แทนตามเดิม เข้าประชุมตามเดิม และที่สำคัญญาติผู้เสียชีวิตก็เจ็บปวดรวดร้าวตามเดิมและสร้างรอยแผลให้บาดลึกลงไปในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการกระทำครั้งนี้ของฝ่ายนิติบัญญัติและว่า บาดแผลครั้งนี้ถูกเปิดให้กว้างโดยฝ่ายปฏิบัติ ละเลงความเจ็บปวดโดยฝ่ายบริหารและทำให้บาดแผลมันไม่มีทางสมานได้โดยฝ่ายนิติบัญญัติ ทุกท่านที่เกี่ยวข้องต้องออกมาชี้แจงและรับผิดชอบต่อการกระทำ
ขณะที่ ประธานวิปจากเพื่อไทย “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ”ยอมรับว่า เมื่อเดือนที่แล้วทราบว่า“พล.อ.พิศาล” ไปรักษาตัวอยู่ต่างประเทศ แต่ไม่ทราบว่าไปที่ไหน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 บัญญัติไว้ชัดเจน ว่าช่วงของการประชุมสภา การจับกุมคุมขัง ประธานสภาฯจะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาเพื่อให้สภาฯ อนุมัติก่อน ถึงจะจับได้ แต่ พล.อ.พิศาล ไปต่างประเทศก่อนหน้านี้แล้ว และไม่ได้อยู่ในสภาฯ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.พิศาล หรือใครก็แล้วแต่ถ้าอยู่ในประเทศไทย ก็ไม่สามารถจับกุมคุมขังได้ ต้องขออนุญาตก่อน เว้นเสียแต่ว่าคนนั้นถูกฟ้องแล้วไปมอบตัวแล้ว และประกันตัวออกมาแล้ว ศาลสามารถเรียกได้ และไม่เห็นด้วยที่ฝ่ายค้านเอาเรื่องนี้มาปั่นในสภาเพราะขณะนี้ควรพูดเรื่องเรื่องปัญหาประเทศโดยเฉพาะเรื่องปากท้อง
ขณะเดียวกันก็น่าสนใจว่าประเด็นตากใบ เริ่มมีการออกมาเคลื่อนไหวของหลายฝ่ายที่จะหยิบนำมามัดรวมเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมกับปม “คนชั้น14”และ “ที่ดินอัลไพน์” อย่างที่ “ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม” อดีตสว. โพสต์FB ทำนอง “รัฐบาลอิ๊งค์” ต้องสร้างความยุติธรรมให้ประชาชนเชื่อมั่น โดยคดีต่างๆ ที่ประชาชนเสียชีวิต ถูกละเมิดสิทธิและคดีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทำผิดเอง ต้องไม่ถูกปล่อยให้ขาดอายุความ ต้องเอาตัวผู้ทำผิดมาลงโทษ และให้ชดใช้ความเสียหายให้ผู้เกี่ยวข้องและรัฐให้ได้ อาทิ คดี 78 ศพ ผู้ชุมนุมที่นราธิวาส คดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ คดีจัดการกับนักโทษที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจคดีตำรวจทำพนันออนไลน์และฟอกเงิน รวมทั้งต้องเอาผิดกับผู้ไม่สั่งฟ้องคดีและผู้เปิดทางหรือพาผู้ต้องหาหลบหนีด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
