2 กมธ. รุมจี้เดือด ติดตามจำเลย “คดีตากใบ” ด้านตำรวจ ยอมรับ มี 2 คน เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว “กมลศักดิ์” เตือนจำเลย-ผู้ต้องหาคดีตากใบ ต้องมีจิตสำนึกอย่าหันหลังจนคดีหมดอายุความ
การประชุมร่วมของคณะกรรมมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน และ คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ติดตามผู้ต้องหาคดีตากใบ ได้เชิญผู้แทนจาก สตช. อัยการ กองทัพบก และ กอ.รมน. เข้าชี้แจง โดยผู้แทนจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวน จังหวัดชายแดนใต้ ตำรวจภูธรภาค 9 ได้ไล่ไทม์ไลน์รายละเอียดการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 14 รายตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาส และศาลจังหวัดปัตตานี พร้อมยอมรับ มี 2 จำเลยในคดีนี้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว แต่ขอสงวนชื่อไว้ ทั้งนี้บรรยากาศในห้องประชุมมีการซักถามไปมากันค่อนข้างดุเดือด
จากนั้น นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ประธานกรรมาธิการการกฎหมายฯ แถลงผลการประชุม ว่า สาระสำคัญคือการติดตามความคืบหน้าจำเลย และผู้ต้องหา โดยกรณีนี้แบ่งเป็น 2 คดี คือ คดีที่ครอบครัวเป็นโจทก์ฟ้องและศาลนราธิวาสประทับฟ้อง จึงอยู่ในฐานะจำเลย 7 คน ส่วนคดีที่พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอ.หนองจิก ทำสำนวนสั่งไม่ฟ้อง และพนักงานอัยการสูงสุดมีความเห็นแย้งให้สั่งฟ้อง ถือว่าอยู่ในฐานะผู้ต้องหา 7 คน รวมทั้งหมด 14 คน โดยประเด็นสำคัญคดีจะขาดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 และศาลนราธิวาส มีคำสั่งสืบพยาน 15 ตุลาคม 2567 ถ้าจำเลย 7 คนไม่มาศาลกระบวนการพิจารณาคดีก็เดินต่อไม่ได้ และสำนวนของพนักงานสอบสวนก็เช่นกัน ซึ่งอัยการรอฟ้องถ้ายังไม่ได้ตัว ภายใน 25 ตุลาคมคดี ก็ขาดอายุความ
ส่วนกรณีพลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คิรี ส.ส พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 หนึ่งในผู้เกี่ยวข้องคดีตากใบ หากมาไม่ปรากฏตัวจนคดีขาดอายุความ จะต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างไรหรือไม่นั้น
นายกมลศักดิ์ ย้ำว่า หากใครก็ตามที่ถูกหมายจับในคดีนี้ ก็ควรจะมาสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งการหันหลังเพื่อให้คดีหมดอายุความไม่ใช่การกระทำที่ถูกต้อง จึงขึ้นอยู่กับสำนึกของบุคคลนั้นๆ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews