Home
|
ข่าว

“ประเดิมชัย” ซัด กทม.รวบรัดโครงการรถขยะ 4 พันล.

Featured Image

 

 

 

 

“ประเดิมชัย” ซัด กทม.รวบรัดโครงการรถขยะ 4 พันล. จนสะดุดหัวทิ่ม ปูดเอื้อเอกชนรายใหญ่เตรียมรถรอแล้วที่สระบุรี

 

 

 

 

 

นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ อดีต สส.กทม. และอดีตประธานสภากทม. กล่าวถึงโครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอยพลังงานไฟฟ้า (EV) จำนวน 884 คัน วงเงิน 3,993 ล้านบาท ที่ดำเนินการจัดจ้างอยู่ในเวลานี้ว่า ช่วงปี 67-68 จะมีรถเก็บขนขยะมูลฝอยของ กทม.

 

ประกอบด้วยรถเก็บขนมูลฝอยแบบอัดขนาด 2 ตัน และขนาด 5 ตัน และรถเก็บขนมูลฝอยแบบยกภาชนะรองรับมูลฝอย ขนาด 3 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) และ 8 ลบ.ม. ทยอยหมดสัญญาเช่า ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.67 ที่ผ่านมา จนถึงเดือน มี.ค.68 ทำให้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ที่เข้ามาบริหาร กทม.ในช่วงปีงบประมาณ 2566 ได้แต่งตั้ง คณะกรรมการจัดทำทีโออาร์เพื่อจัดหารถขยะทั้ง 4 ประเภท วงเงิน 3,993 ล้านบาท

 

และจากเดิมจะให้ใช้รถสันดาบล้วน แต่นายชัชชาติ มีนโยบายให้ปรับมาใช้เป็นรถพลังงานไฟฟ้า ทำให้ผู้รับผิดชอบโครงการไม่มั่นใจว่า จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ จนมีการสอบถามไปยัง กรมบัญชีกลาง รวมถึงมีผู้ร้องไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถึงความไม่โปร่งใสของโครงการ และ กทม.ก็ได้มีข้อเสนอแนะมายัง นายชัชชาติ ว่า การดำเนินโครงการมีความสุ่มเสี่ยง

 

เพราะการเปลี่ยนเป็นรถพลังงานไฟฟ้าอาจต้องปรับเปลี่ยนงบประมาณ แต่ กทม.ยืนยันว่า สามารถใช้งบประมาณได้เท่าเดิม ส่งผลให้ต้องมีการใช้ทรัพยากรของสำนักงานโยธา กทม.ที่เตรียมไว้สำหรับซ่อมแซมถนนมาปรับปรุงสถานที่สำหรับการเป็นพื้นที่ชาร์ตรถที่เขตหนองแขม กทม.

 

ที่สุดแล้วจนถึงขณะนี้ นายชัชชาติ ไม่สามารถดำเนินการโครงการได้จนต้องยกเลิกไปในที่สุด แล้ว นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม. ออกมาอ้างว่า มีคนร้องเรียนทำให้โครงการไม่สามารถเดินหน้าได้ และพูดถึงขั้นว่า จะลาออกจากตำแหน่ง เข้าใจว่าอาจจะเพี้ยนไป

 

เพราะไม่ควรโยนความผิดว่า มีคนไปร้องเรียน จนโครงการเดินหน้าไม่ได้ แต่เป็นเพราะ กทม.ไม่กล้าทำเอง และหากมั่นใจว่าโปร่งใส ก็ไม่มีใครห้าม แม้แต่ความเห็นจาก ป.ป.ช. ก็เป็นเพียงข้อแนะนำ แต่หากมีคนร้อง ป.ป.ช. ก็มีหน้าที่ตรวจสอบตามกฎหมาย

 

นายประเดิมชัย กล่าวต่อว่า เมื่อการจัดหารถไม่ทันกับรถที่จะหมดสัญญาไปแล้วทำให้ กทม. จัดทำโครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอยจำนวน 470 คัน วงเงิน 241 ล้านบาท ระยะเวลา 270 วัน โดยมีการปรับเป็นรถพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด

 

ซึ่งทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ กทม.ว่า ขั้นตอนการดำเนินการอาจมีปัญหา มีการออกหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่เร่งรีบผิดปกติ สุดท้ายมีการเห็นชอบให้ใช้งบกลางเพื่อดำเนินการโครงการในวันที่ 4 มิ.ย.67 โดยระบุว่า เพื่อให้มีรถมาใช้ทดแทนรถที่จะหมดอายุช่วงเดือน ก.ย.67-มี.ค.68 ทำให้เอกชนทั่วไปเตรียมการไม่ทัน

 

“อยากตั้งคำถามว่าการดำเนินการรวบนัดตัดตอนแบบนี้เอื้อประโยชน์ให้ใครหรือไม่ เพราะผมได้ยินมาว่า มีเอกชนรายใหญ่เตรียมรถไว้แล้วที่ จ.สระบุรี แต่ที่สุดแล้ว กทม.ไม่กล้าเดินหน้า จนโครงการต้องพับไป ซึ่งหากตั้งเรื่องโครงการใหม่ แต่ยังคงเดินหน้าทำแบบเดิมอีก ก็ไม่มีใครเตรียมรถทันอยู่ดี เรื่องนี้ได้ร้องไปที่ ป.ป.ช.แล้ว และทราบว่าป.ป.ช. ได้เรียก กทม.ไปชี้แจงแล้วด้วยเช่นกัน จึงขอเรียกร้องให้นายชัชชาติ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube