ศปช.แจ้ง น้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา แนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง พร้อมสั่งลดระบายน้ำ ด้านตลาดสายลมจอย แม่สาย เร่งบิ๊กคลีน เข้าออกพื้นที่สะดวกมากขึ้นแล้ว ส่วนลำพูน เร่งสูบน้ำออกคาดอังคารนี้แห้งสนิท
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. และ ศปช.ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากการบริหารจัดการน้ำเพื่อลดผลกระทบของประชาชน ในพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งที่ผ่านมากรมชลประทานได้ปรับลด การระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานว่า ในช่วง 12.00 น. วันนี้ (ศุกร์ที่ 11 ต.ค.67 ) จะปรับลดการระบายน้ำลงอีก อยู่ที่ 2,000 ลบ.ม./วินาที ซึ่งเป็นระดับที่ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สิงห์บุรี และบางพื้นที่ ของ จ.อ่างทอง จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น
แม้จะมีการปรับลดการระบายน้ำในวันนี้แล้ว แต่ในช่วงวันที่ 13-24 ต.ค.67 นี้พื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยเฉพาะจังหวัดท้ายเขื่อน ตั้งแต่จังหวัดชัยนาท ลงมา อาทิ อยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพและสมุทรปราการ ยังจำเป็นต้องเฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจเข้าท่วมชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ และบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกัน ซึ่งที่ประชุม ศปช.ได้สั่งการให้ สทนช. กรมชลประทาน กรมอุทกศาสตร์ และ กทม. เฝ้าระวัง และเตือนภัยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุน และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต่อไป
ส่วนความคืบหน้าการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำปิงในพื้นที่ภาคเหนือ หลังมวลน้ำเคลื่อนตัวจาก จ.เชียงใหม่ ไปยัง จ.ลำพูน จนทำให้ระดับน้ำท่วมสูง บางจุดมีน้ำขังจนทำให้ประชาชนและเกษตรกรเริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำที่เริ่มเน่าเสียนั้น ที่ประชุม ศปช.ได้สั่งการให้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อม กรมชลประทาน ระดมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำเข้าพื้นที่เพิ่มเติม
ซึ่งก่อนหน้านี้ บริเวณ บ้านสบปะ ต.ริมปิง มีเครื่องสูบน้ำติดตั้ง 3 เครื่อง และ บ้านป่าไผ่ ต.หนองช้างคืน มีเครื่องสูบน้ำติดตั้ง 2 เครื่อง โดยล่าสุดทางสำนักงานชลประทานที่ 1 ได้นำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งเพิ่มเติมคาดว่าจะใช้เวลา 3 วัน ทั้ง 2 จุดนี้จะเข้าสู่ภาวะปกติ
ซึ่งก่อนหน้านี้นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้ขอรับการสนับสนุนกำลังพลและเรือผลักดันน้ำจากกองทัพ จำนวน 20 ลำ โดย 10 ลำแรก นำไปติดตั้งไว้บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำปิง สะพานเฉลิมพระเกียรติ 2540 จุดเชื่อมต่อระหว่าง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน และ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ส่วนอีก 10 ลำ ติดตั้งบริเวณ สะพานศรีบุญยืน อ.เมือง จ.ลำพูนโดยกองทัพเรือติดตั้งแล้วเสร็จเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 2 จุดได้เดินเครื่องเต็มศักยภาพเพื่อเร่งระบายที่ตกค้างในพื้นที่ ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน โดยคาดว่าภายในวันที่ 15 ต.ค. จะสามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ จ.ลำพูน ได้ทั้งหมด
ส่วนการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งอุปสรรคสำคัญคือการกำจัดโคลนที่ตกค้างในพื้นที่ โดย ศปช.ส่วนหน้าได้แบ่งพื้นที่รับผิดชอบเป็น 2 โซนหลัก 6 โซนย่อย โดย กระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบโซนเหมืองแดง เหมืองแดงใต้ และปิยะพร ด้านกระทรวงกลาโหม รับผิดชอบ โซนหัวฝาย-สายลมจอย เกาะทรายไม้ลุงขน โดยที่ประชุมได้รับรายงานว่าขณะนี้ทุกอย่างเดินหน้าตามแผน ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะบริเวณตลาดสายลมจอย ซึ่งถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญและได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ด้วยร่วมมือจากทุกภาคส่วน ได้ระดมเคลียร์โคลนออก จนทำให้เช้าวันนี้ สามารถเคลียร์พื้นที่จนเดินเท้าเข้าออกได้อย่างสะดวกมากขึ้น ซึ่งแล้ว โดยหลังจากนี้จะทำให้การเข้าทำความสะอาดบ้านเรือน ประชาชนเดินหน้าได้รวดเร็วมากขึ้น
ด้าน น.ส.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ รมช.มท. (ประธาน ศปช.ส่วนหน้า) ลงพื้นที่บ้านห้วยทรายขาว หมู่ 3 ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อรับฟังรายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต.แม่ยาว จากนั้นจะพบปะประชาชนเพื่อมอบทุนการศึกษา มอบเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง และมอบเครื่องอุปโภคบริโภค บรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews