Home
|
ข่าว

DSI รับคดีฟอกเงิน “ดิไอคอน” เป็นคดีพิเศษ

 

 

 

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และนายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมายในฐานะโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ร่วมกันแถลงข่าวรับคดีฟอกเงินของบริษัท The Icon Group เป็นคดีพิเศษ

 

 

 

 

โดย DSI พิจารณาเห็นชอบที่จะรับคดีข้อหาฟอกเงินของบริษัท The Icon Group เป็นคดีพิเศษ เลขคดีที่ 115/2567 โดยให้ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนในคดีนี้ อย่างไรก็ตาม ทาง DSI รับเฉพาะคดีฟอกเงินเท่านั้น ส่วนข้อหาอื่น ๆ โดยเฉพาะข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ยังอยู่ในอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

เนื่องจากถือว่า การกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและความผิดฐานฟอกเงินนั้น เป็นกรณีต่างกรรมต่างวาระ จึงเป็นถือเป็นคนละสำนวนคดี โดย DSI จะดำเนินคดีกับผู้โอน รับโอน ได้มา ครอบครองหรือใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดหรือรู้ว่ามาจากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งถือเป็นพฤติการณ์สำคัญของข้อหาฟอกเงิน

 

ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนต่อไปถึงเส้นทางการเงิน รวมทั้งที่มาของทรัพย์สินต่างๆที่ทั้ง DSI และตำรวจตรวจยึดมาได้ เพราะเชื่อว่ากลุ่มผู้กระทำความผิด ได้นำทรัพย์สินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหาย ไปซื้อทรัพย์สิน ของตัวเอง ถือเป็นการแปลงสภาพทรัพย์สิน หากรวบรวมพยานหลักฐานได้อย่างชัดเจนและแน่นหนาเพียงพอ ก็จะนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดคดีฟอกเงินต่อไป

 

ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าผู้ต้องหา 18 รายในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ที่ตอนนี้ยังถูกฝากขังในเรือนจำ อาจเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินทั้งหมด และอาจจะมีผู้ต้องหาแถวที่ 2 หรือแถวที่ 3 ซึ่งจะต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียดต่อไป แต่คาดว่าน่าจะมีรายการทรัพย์สินหมุนเวียนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 100-1,000 ล้านบาท

 

 

ดังนั้น ในวันนี้จึงเป็นการเคลียร์ข้อครหาได้อย่างชัดเจนที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษทำงานทับซ้อนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ซึ่งวันนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสืบสวนเพื่อนำมาสู่คดีฟอกเงินและทั้ง 2 หน่วยงาน ต่างก็ร่วมมือการทำงานและประสานข้อมูลกันมาโดยตลอดในลักษณะของการ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อมุ่งหวังที่จะร่วมกันให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหายโดยเร็วที่สุด

 

ขณะที่นายวิทยากล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือ DSI ที่ดำเนินการตรวจยึดทรัพย์สินไว้เป็นของกลาง ก็จะต้องส่งมาที่ ปปง. ในฐานะหน่วยงานจัดการด้านทรัพย์สินในคดีอาญา เพื่อตรวจยึดเป็นของแผ่นดินและนำไปสู่การขายทอดตลาดนำเงินมาชดเชยคืนแก่ผู้เสียหาย ขอให้มองว่าการทำงานของ 2 หน่วยงานนั้นเป็นลักษณะของการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อไม่ทำให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งทำงานหนักจนเกินไปและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนกับผู้เสียหายมากที่สุด

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube