ชูศักดิ์ ไม่เข็ด-ไม่เสียใจ หลังสภาฯ โหวตคว่ำข้อสังเกตกมธ.นิรโทษกรรม โดยเฉพาะ สส.เพื่อไทย ยืนยัน ไม่ได้ใช้มติพรรค ปล่อยเป็นเอกสิทธิ สส. ชี้ ยังไม่ปิดประตูตาย หลังมีร่าง พ.ร.บ.จ่อเข้าสภาฯ 4 ร่าง
กรณีที่เมื่อวานนี้ (24 ต.ค.67) สภาฯ โหวตคว่ำข้อสังเกตร่างผลการศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยมี สส.ของพรรคเพื่อไทย โหวตไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ถือว่ารายงานดังกล่าวจบไป เพราะได้รายงานต่อสภาเป็นที่เรียบร้อย และ กมธ.ได้ทำหน้าที่จบแล้วซึ่งรายงานนี้ก็จะอยู่ในที่สภาฯ หากองค์กรใดจะนำไปใช้ประโยชน์ในทางใดก็สามารถกระทำได้
นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ก่อนลงมติ พรรคเพื่อไทยได้มีการประชุมซึ่งมีการพูดคุยกันว่า พรรคควรรับรายงาน และรับข้อสังเกต แต่เนื่องจากมี สส. บางคนเกิดความไม่สบายใจ จึงตัดสินใจให้เป็นเอกสิทธิของ สส.ในการโหวตเรื่องดังกล่าว โดยไม่ต้องใช้มติพรรค พร้อมยอมรับว่า มติที่ออกมาเกิดจากมี สส.หลายคน ไปตีความกันว่า คนที่เห็นชอบ คือ คนที่ต้องการแก้ไข หรือนิรโทษกรรมให้กับผู้ต้องหาคดีมาตรา 112จึงเกิดความรู้สึกวิตกกังวล ตนก็พยายามแจ้งไปแล้วว่า ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเป็นเพียงแค่รายงานการศึกษา ไม่เกี่ยวกับจะแก้ไขอะไร
ส่วนในความรู้สึกส่วนตัว รู้สึกเสียหน้า หรือเสียใจ กับมติดังกล่าวหรือไม่ นายชูศักดิ์ ปฏิเสธ ก่อนระบุว่า ไม่สามารถพูดเช่นนั้นได้ และตนก็ได้ย้ำกว่าที่ประชุมไปแล้วว่า ญัตติดังกล่าวเป็นของพรรคเพื่อไทยและประธานกรรมาธิการก็คือ ตนเอง ที่ดำเนินการทำรายงานเอง ซึ่งหากท้ายที่สุดจะมาบอกว่า ให้ประธานฯ ที่ทำรายงานของตนเอง ไม่โหวตรับก็คงจะไม่ได้ แต่ก็รู้สึกดีใจที่คณะกรรมาธิการที่ทำงานร่วมกันมาได้โหวตรับรายงาน และรับญัตติดังกล่าว
ส่วนจะถือว่าเป็นการปิดประตูเรื่องนิรโทษกรรมหรือไม่ นายชูศักดิ์ มองว่า ไม่ใช่ เพราะท้ายที่สุด ก็จะมีร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม จำนวน 4 ร่าง ของพรรคการเมือง 3 พรรคประกอบด้วย พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคก้าวไกลในอดีต และของภาคประชาชน 1 ร่าง ซึ่งจะถือเป็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของแท้ซึ่งก็ต้องถกเถียงกันอีกว่า ท้ายที่สุดจะดำเนินการอย่างไร โดยเข้าใจว่าหากเปิดสมัยประชุมมาร่างดังกล่าวก็จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ซึ่งพรรคการเมืองทั้งหลายก็ต้องนำพิจารณาว่า จะคิดเห็นกันอย่างไร เพราะเรื่องนี้คือ ร่างกฎหมาย และต้องไปพิจารณากันว่า จะรับหลักการหรือไม่ รับกี่ฉบับ
เมื่อถามต่อว่าจะรู้สึกเข็ด ต่อการเป็นหัวหอกการ ดำเนินการเรื่องนิรโทษกรรมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชูศักดิ์ ระบุว่า ไม่ได้รู้สึกเข็ด หรือเสียใจอะไร เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องทำแต่เมื่อมีความคิดเห็นกันเช่นนี้ ก็ต้องว่ากันไป ไม่ว่าอะไรกัน
ส่วนในอนาคตหากมีการพูดถึงนิรโทษกรรม จะต้องมีความรัดกุมมากกว่าเดิมหรือไม่ เพื่อไม่ให้นำประเด็นดังกล่าวไปเชื่อมโยงกับมาตรา 112 นายชูศักดิ์ มองเรื่องนี้ว่า คงหนีไม่พ้นที่จะต้องพูดถึง เพราะขนาดร่างผลการศึกษา ที่ไม่มีมาตรา 112 อยู่ ยังถูกนำไปเชื่อมโยง เพียงแต่ท้ายที่สุดก็ต้องก็ไตร่ตรองกัน แต่เชื่อว่า รายงานที่ดำเนินการทำไปจะประโยชน์
ขณะที่พรรคเพื่อไทยที่โหวตไม่รับข้อสังเกต จะส่งผลต่อคะแนนเสียงฝ่ายประชาธิปไตยหรือไม่ นายชูศักดิ์ เชื่อว่า ส่วนหนึ่งเราไม่ได้ปฏิเสธรายงาน ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้รับรายงานเพียงแต่ไม่รับข้อสังเกต ซึ่งการไม่รับข้อสังเกตก็หมายความว่า ไม่ต้องส่งไปให้หน่วยงานต่างๆแค่นั้น ซึ่งเชื่อว่า รายงานฉบับนี้สภาฯ จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หากมีการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 4 ร่าง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
