เบื้องหลังสุดซึ้ง “โฟกัส” ก้มกราบแม่ หลังชมรมฟุตบอลสธ. ทำเซอร์ไพรส์ ถึงขอบสนาม

เบื้องหลังสุดซึ้ง “โฟกัส” ก้มกราบแม่ หลังชมรมฟุตบอลโรงเรียนวัดสุทธิฯ ทำเซอร์ไพรส์ ถึงขอบสนาม

 

 

 

 

กีฬาขั้นเทพวันนี้จะพาไปดูควันหลงของทีมชาติไทย ชุดยู 17 ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีรอบคัดเลือก ที่ชลบุรี หลังจากสามารถเก็บได้ 9 คะแนนเต็มจากชัยชนะ 3 นัดรวด ผ่านเข้าไปเล่น 16 ทีมสุดท้ายที่ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 3-20 เมษายน 2568 ได้สำเร็จ

 

 

 

ซึ่งระหว่างการแข่งขัน ก็มีเรื่องราวดีๆซึ้งๆ มาให้แฟนๆได้ชื่นชมกัน ในนัดที่ ทีมชาติไทยไล่ถล่ม บรูไน ไปขาดลอย 19-0 ซึ่งหลังจากจบเกมนี้ บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความสุข พร้อมน้ำตาของแม่-ลูกคู่หนึ่ง โดยเฉพาะคุณแม่สกาวเดือน ทองน้อย กับลูกชาย “โฟกัส” นายทัศฏภรณ์ พึ่งกุศล นักฟุตบอล ทีมชาติไทย ยู 17 มีโอกาสได้เจอหน้ากันเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน

 

 

 

คุณแม่สกาวเดือน มีอาชีพรับจ้างรายวันอยู่ที่ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น และต้องเลี้ยงดู 3-4 ชีวิต หากวันใดไม่มีงานจ้าง หรือไม่สบาย ก็เท่ากับว่าครอบครัวนี้จะขาดรายได้ไป 1 วัน ซึ่งนั่นคือ สาเหตุหลักที่ทำให้ทุกวัน คุณแม่สกาวเดือน ไม่มีเวลาทำอะไร นอกจากทำงาน ทำงาน และ ก็ทำงาน

 

 

ทั่วนี้ช่วงเดือน มิ.ย.67 ร.ร.วัดสุทธิวราราม มีการประชุมผู้ปกครอง ซึ่งคุณแม่สกาวเดือนแจ้งว่า ไม่สามารถมาประชุมได้ เพราะไม่มีเงินค่ารถเดินทางมายัง กทม. และไม่สามารถขาดงานได้ ดังนั้นทางชมรมศิษย์เก่านักบอลสุทธิวราราม จึงได้ออกเงินค่าเดินทางและค่าหยุดงาน ทำให้คุณแม่สกาวเดือนเดินทางมา กทม. และพบกับลูกชายของตัวเองแต่หลังจากกลับไปครั้งนั้น ทั้งคู่ก็ไม่ได้พบกันอีกเลย

 

 

ล่าสุดจนมาถึงวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา ชมรมศิษย์เก่านักบอลสุทธิวราราม ต้องการสานฝันให้กับ “เจ้าโฟกัส” จึงได้ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการพาคุณแม่สกาวเดือน มานั่งดูลูกชายลงเล่นในนามทีมชาติไทย ชุด U 17 ปี ถึงขอบสนามชลบุรี โดยที่ “โฟกัส” ก็ไม่ได้คาดคิดว่า จะได้ลงเล่น โดยที่บนอัฒจันทร์มีคุณแม่มานั่งดูอยู่ด้วย ทันทีที่จบเกม คุณแม่สกาวเดือน ได้มีโอกาสพบเจอกับลูกชายที่บริเวณหน้าสนาม

 

 

ซึ่ง “โฟกัส” ถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาว่า “คิดถึง ทุกคนที่บ้านฝากความคิดถึงมาหานะ” ขณะที่คุณแม่สกาวเดือน บอกกับลูกชายว่า “ขอให้ตั้งใจฝึกซ้อมและมีวินัยแบบนี้ตลอดไป เพื่อจะได้ติดทีมชาติไปนานๆ”

 

 

 

 

นี่คือครั้งแรกที่คุณแม่สกาวใจ ได้เดินทางมาดู “โฟกัส” แข่งฟุตบอลถึงขอบสนาม ซึ่งอย่าว่า แต่มาดูลูกชายเล่นฟุตบอลเลย แค่มาเยี่ยมก็ยังไม่มีโอกาสเนื่องจากภาระหน้าที่ต่างๆในการหาเงินดูแลครอบครัวส่วน “โฟกัส” กล่าวว่า แม่ทำงานอยู่คนเดียว เลี้ยงผมตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อเสียไปตั้งแต่ผมเด็กๆแล้ว ขอบคุณแม่มากที่ทำให้ผมมาถึงทุกวันนี้”อย่างไรก็ตาม “โฟกัส” ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง พร้อมยิงประตูแรกให้ ไทย ขึ้นนำ 1-0 เป็นประตูแรกของ “โฟกัส” กับ ทีมชาติไทย ด้วย (จบเกมยิง 2 ลูก)

 

 

 

โดยภายหลังจากจบ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ที่ชลบุรี ไปเมื่อวานนี้แล้วซึ่งทีมชาติไทย สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ ประเทศซาอุดีอาระเบียได้สำเร็จ ล่าสุด โฟกัสได้ออกมาโพสต์ข้อความเผยความในใจผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ผมอยากขอบคุณทางโรงเรียนวัดสุทธิวราราม และโค้ชทุกคนครับ ใช่ครับผมผ่านมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมมีท้อบ้าง แต่โค้ชทุกคนเขามาบอกสอนผมตลอด ซัพพอร์ตผมตลอดผมขาดเหลืออะไรก้พยายามหามาให้ตลอดครับ ทำให้ผมมาถึงจุดนี้ได้ ถึงตรงนี้จะเป็นแค่ก้าวแรก แต่ผมก็ภูมิใจเสมอครับ ที่ได้มาอยู่ตรงจุดนี้ ขอบคุณทุกคนครับ”

 

 

และนี่คือโมเมนท์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ คุณแม่สกาวเดือน ทองน้อย กับลูกชาย “โฟกัส” ทัศฏภรณ์ พึ่งกุศล ที่ต้องจดจำไปอีกนาน ทั้งนี้ชมรมศิษย์เก่านักฟุตบอลสุทธิวราราม โดยการนำของ นายโสฬส อุดมสมปอง ประธานชมรม และคณะกรรมการทีมสตาฟโค้ชอยากให้แม่ได้มีโอกาสมาชมเกมการแข่งขันในครั้งนี้ จึงดูแลค่าใช้จ่าย

 

 

การเดินทางที่พักทั้งหมดให้กับทางคุณแม่ และ ท่านผอ. โรงเรียนวัดสุทธิวราราม นายเรวัต นกสว่าง ได้อนุมัติรถตู้ของโรงเรียนพาคุณแม่มาชมเกมการแข่งขันถึงสนาม ซึ่งท่าน ผอ. เรวัต นกสว่าง ได้มาชมเกมการแข่งขันในครั้งพร้อมนายภิมุข ชัยชนะ หัวหน้าหมวดกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา และหัวหน้าศูนย์กีฬา มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีให้กับนักฟุตบอลทั้งสองคนอีกด้วย

 

 

 

ปัจจุบันทางโรงเรียน และชมรมศิษย์เก่านักฟุตบอลสุทธิวราราม ได้ดูแลและมอบทุนการศึกษาให้กับน้องๆใน นามนักฟุตบอลโควต้า “ช้างเผือก” เป็นจำนวนนับ 100 คน พร้อมด้วยทีมงานสตาฟฟ์โค้ชชุดใหม่เข้ามาบริหารจัดการทีมเป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว โดยมี สมาคมนักเรียนเก่าสุทธิวราราม บริษัทเอกชน และ หน่วยงานต่างๆ ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews