ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีร้านสะดวกซักอยู่ใกล้บ้านเต็มไปหมด แต่เสื้อผ้าบางประเภทก็ยังจำเป็นต้องอาศัยการซักมืออยู่บ้าง และเพื่อถนอมเนื้อหาและรักษาอายุการใช้งานให้ยาวนาน แล้วเคยสงสัยกันไหม? ว่าพอเราลองซักผ้าเองเท่าไหร่ ก็รู้สึกว่าไม่สะอาด และไม่หอมติดทนเท่าที่คุณแม่ซักเลย ในบทความนี้ จะมาแชร์ขั้นตอนการซักมือ ซักอย่างไรให้สะอาด และกลิ่นหอมติดทนกันเลย
6 ขั้นตอนการซักมือให้สะอาด
1. ใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยน
มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรกของการซักผ้า คือการเลือกใช้น้ำยาซักผ้าสูตรที่เหมาะสมกับเนื้อผ้า โดยเฉพาะน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนที่มีคุณสมบัติถนอมใยผ้า เพราะจะช่วยให้ผ้าไม่ยืด ย้วยและยืดอายุการใช้งานของผ้าได้มากขึ้น
2. ไม่ควรขยี้แรง ๆ
ไม่ควรแปรง หรือขยี้ผ้าแรง ๆ ถึงแม้จะมีคราบสกปรก เช่น คราบอาหารเปื้อน หรือคราบเลอะน้ำโคลนที่ฝังอยู่บนเนื้อผ้า แนะนำให้ป้ายน้ำยาซักผ้าทิ้งไว้บริเวณที่มีคราบเปื้อน และค่อย ๆ ใช้แปรงซักผ้าค่อย ๆ แปรงออกหรือใช้มือขยี้บริเวณนั้นเบา ๆ คราบก็จะค่อย ๆ จางลงไปเอง
3. แช่ผ้าทิ้งไว้
เช่นเดียวกันกับเสื้อผ้าที่มีคราบฝังแน่น ในขณะเดียวกันก็สามารถแช่ผ้าทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที โดยจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่อยู่บนใยผ้าให้หลุดออกไปง่ายขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องออกแรงเลย
4. ล้างด้วยน้ำสะอาด
หลังจากซักด้วยน้ำยาซักผ้า และแช่ผ้าทิ้งไว้แล้ว ก็ถึงขั้นตอนการทำความสะอาด โดยวิธีการซักล้างผ้านี้นั้น ควรล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพื่อล้างน้ำยาซักผ้าที่ยังคงเหลืออยู่บนเนื้อผ้า และไม่ควรขยำผ้าแรง ๆ แนะนำให้ค่อย ๆ กวนผ้าผ่านน้ำ และล้างด้วยน้ำสะอาดจนกว่าจะไม่มีฟอง หรือจนกว่าน้ำจะใส
5. แช่น้ำยาปรับผ้านุ่ม
หลายคนอยากให้เสื้อผ้าที่เราใส่ในแต่ละวันมีกลิ่นหอมติดทั้งวัน แต่ซักมือเองเท่าไหร่ก็รู้สึกว่า ซักเท่าไหร่ผ้าก็ยังหอมเลย แม้จะใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มลงไปเยอะมากก็ตาม อย่างไรก็ตาม สามารถสังเกตหรือดูข้อมูลข้างผลิตภัณฑ์ว่าควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มในปริมาณเท่าไหร่ โดยจะช่วยให้ผ้าเราหอมและกลิ่นติดทนมากยิ่งขึ้น
6. ไม่ควรตากผ้ากลางแดดจัด
อยากให้ผ้าหอมติดทน แนะนำให้นำผ้ามาตากในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเท แต่ไม่ควรตากไว้กลางแจ้งหรือให้โดนแดดจัดโดยตรง เนื่องจากแดดจะทำให้สีสันของเสื้อผ้าเราซีดจางลงกว่าเดิม และอีกหนึ่งเทคนิคการตากผ้าที่หลาย ๆ คนมักมองข้าม คือการกลับด้านผ้าก่อนแล้วค่อยตาก ก็จะช่วยให้สีสันของผ้ายังสดใสอยู่ด้วยเช่นกัน
สรุป
6 เคล็ดลับการซักมือให้ผ้าสะอาดและมีกลิ่นหอมติด และยังเป็นการถนอมเนื้อหาให้เราสามารถใส่ได้นานอีกด้วย โดยเริ่มต้นได้ง่าย ๆ จากการเลือกใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยน เพื่อถนอมเนื้อผ้า หลีกเลี่ยงการขยี้เนื้อผ้าแรง ๆ เพื่อถนอมใยผ้า หากมีคราบสกปรกฝังลึก แนะนำให้แช่ผ้าทิ้งไว้ก่อน แล้วค่อยแปรงออกเบา ๆ โดยไม่ต้องออกแรงมาก ล้างด้วยน้ำสะอาดจนไม่มีฟองและใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มความหอม สุดท้ายคือการตากผ้าในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทดี กลับด้านผ้าก่อนตากเพื่อรักษาสีสันให้สดใส วิธีการเหล่านี้จะช่วยให้เสื้อผ้าของคุณสะอาด หอม และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นแน่นอน