หลายต่อหลายครั้งที่ได้ยินประโยคจากโซเซียลตอนนี้ว่า ‘’การทำหน้าตอนอายุยังน้อยยังไงก็ดีกว่า’’ ‘’แนะนำหัตถการที่ต้องทำ ทำแล้วชีวิตดีขึ้นมาก’’ มีหลากหลายประโยคที่มักโน้มน้าวคนเสพสื่อได้แชร์ลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ สิ่งเหล่านี้ทำให้มาตรฐานของบิวตี้สแตนดาร์ดสูงขึ้น จนขาดการยอมรับในตัวเองลดลงหรือเปล่า?
บิวตี้ สแตนดาร์ดในปัจจุบัน
บิวตี้ สแตนดาร์ด (Beauty Standard) ของสังคมไทยถูกตีกรอบมานานว่า สวยต้องเท่ากับผอม ผิวต้องขาว หน้าต้องเนียน ฟันต้องขาว ต้องไม่มีขน หน้าต้องเรียว ถึงแม้ในปัจจุบันจะตระหนักไปบางส่วนแล้วแต่นั้นก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะมาตรฐานมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละยุคสมัย นั้นก็ยังทำให้คนขาดการยอมรับในตัวเองและความมั่นใจเป็นจำนวนมาก เพราะอิทธิพลของสื่อในปัจจุบันยังมีการแชร์ข่าวสารของความสวยของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ดารา นางงาม คนมีชื่อเสียงมาเป็นจุดกระตุ้น สิ่งนี้ทำให้เรามองถึงปัญหาว่าในปัจจุบันกำลังเผชิญการต่อสู่กับบิวตี้สแตนดาร์ดสูงกว่าเดิมของสังคมที่กำลังสร้างขึ้นอีกครั้งหรือเปล่า
เพราะความงามไม่ควรถูกจำกัดของมาตรฐานที่สังคมสร้างขึ้นมา
มันไม่ผิดถ้าจะทำสวย
จริงอยู่ทุกคนมีสิทธิ์จะพอใจในความงามในแบบของตัวเอง คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าหากจะทำให้ตัวเองสวย มั่นใจขึ้น แต่ไม่ใช่ให้สังคมยอมรับในความสวย หรือคนเสพสื่อนั้นต้องรู้สึกผิดกับตัวเองถ้าไม่ได้ทำ
กลัวว่าจะสายเกินไปถ้าไม่ได้ทำตอนนี้ เช่น แนะนำหัตการการทำหน้า ผิว ผม ว่าจะต้องเป็นแบบไหนถึงจะดี ต้องให้รีบทำเพราะอายุจะทำให้เห็นผลช้า แต่หากมองให้ลึกสิ่งเหล่านี้กำลังหล่อหลอมให้คนหนีจากการยอมรับและการเป็นธรรมชาติของมนุษย์ เพราะหลายครั้งก็เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสังคมเพื่อถูกยอมรับจนลืมความเป็นตัวเอง
มีคำพูดหนึ่งกล่าวไว้ว่า เป็นผู้หญิงมันเหนื่อย ซึ่งแปลว่าเหนื่อยจริงๆ สารตรงจากผู้เขียน แต่แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เหนื่อยหมายถึงจะต้องทาเหล่าสกินแคร์ของเหล่าสาวๆหรือใครก็ตามต้องดูแลผิวประทินโฉมความงามแบบ เช้า กลางวัน ก่อนนอน ทั้งสกินแคร์ หัตถการ ศัลยกรรม จะต้องมี จะต้องเป็น จะต้องทา จะต้องทำ
ไม่กล้าเป็นตัวเองเพราะมาจากแรงกดดันทางสังคม (Social Pressure) แน่นอนว่าบิวตี้สแตนดาร์ดเข้ามามีบทบาทกับคนในปัจจุบันสูงมาก มีแนวโน้มว่ามาตรฐานนี้จะสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าต้องทำสวยให้เข้ากับมาตรฐานให้ทุกคนต้องปฏิบัติตามเพื่อให้สังคมยอมรับ และสิ่งนี้เองอาจจะทำให้เราเสียความเป็นตัวเอง ขาดการยอมรับในตัวเอง เพราะฉะนั้นการสวยนั้นต้องมาจากความรู้สึกพึงพอใจของเราเอง ทุกคนสามารถให้ตัวเองดูดีในแบบที่ต้องการโดยไม่ต้องรู้สึกผิด
ยอมรับในความเป็นตัวเอง
ถ้าวันหนึ่งจะมีผมแตกปลาย มีรูขุมขน มีรอยสิว มีขนขึ้นตามตัว หน้าไม่ขาว ก็ไม่เป็นไรเลย ทุกคนล้วนเป็นมนุษย์สิ่งนี้มันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเสมอ การยอมรับในตนเองได้คือสิ่งที่เพอร์เฟคที่สุด เราสามารถปรับตัวให้เหมาะสมในแบบของเราได้ เข้าใจและยอมรับในสิ่งเป็น เพราะการยอมรับจะช่วยให้เรามั่นใจ สร้างสุขภาพจิตที่ดี รวมไปถึงพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบที่สังคมสร้างขึ้นมา ไม่ว่าความสวยงามในรูปแบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจแต่ละบุคคล ไม่มีมาตรฐานจากใครมาทำลายความเป็นตัวเองนอกจากตัวเองได้
คงต้องยอมรับว่าในปัจจุบันบิวตี้สแตนดาร์ดมีอิทธิพลอย่างมากในสังคม แต่หากมองเห็นคุณค่า (Self-esteem ) ความงามในแบบของตัวเองนั้นแหละคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะความสวยงามอย่างแท้จริงคือการรู้สึกดีในสิ่งที่เราเป็นโดยไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร จงกล้าจะเป็นตัวเอง และเชื่อมั่นความเป็นงามในแบบของตัวเองเท่านั้นก็เพียงพอแล้วค่ะ ยังไงก็ตามขอส่งกำลังใจ ส่งพลังบวกดีๆให้คนกับผู้อ่านบทความนี้อยู่นะคะ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก
https://www.psy.chula.ac.th
https://www.afterklass.com
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews