จากประเด็นร้อนเรื่องที่ทนายความชื่อดังถูก นางจตุพร หรือ มาดามอ้อย เศรษฐินีชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศสเข้าแจ้งความเอาผิดในความผิดฐาน “ฉ้อโกง” เงินจํานวน 71 ล้านบาท
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลาประมาณ 9.15 น. นายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความของเจ๊อ้อย ได้เดินทางมาถึงยังกองบังคับการปราบปราม พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อว่า วันนี้เป็นการสอบปากคำวันที่ 4 ในหลายๆ ประเด็นที่ทางพนักงานสอบสวนยังสงสัยโดยเน้นประเด็นหลักคือเรื่องของเงินที่ 71 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม “เจ๊อ้อย” ได้ให้ปากคำไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์
วันนี้จึงเชื่อว่าเหลืออีกประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ สุดท้ายและน่าจะสอบปากคำจบภายในวันนี้ คาดว่าคงใช้เวลาสอบตลอดทั้งวัน ส่วนท่าทีของทนายชื่อดังที่เงียยหายไปในช่วงนี้นั้น ทนายสมชาติ ระบุว่าทส่วนตัวเชื่อว่าทนายคนดังยังอยู่ในประเทศไทยและน่าจะเตรียมตัวในทุกๆด้านเกี่ยวกับคดี
ขณะที่ต่อมาเวลาประมาณ 9.45 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานประชาชน ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ กองบังคับการปราบปราม เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นเงิน 71 ล้านบาท พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ตนเคยบอกกับพนักงานสอบสวนไปแล้วหลายครั้งว่าพร้อมเข้าให้ข้อมูลและรอให้ตํารวจเรียกแต่ยังไม่เรียกสักที
ซึ่งเห็นทางฝ่ายพี่อ้อยเข้ามาพบตํารวจแล้วหลายครั้งประกอบกับเมื่อคืนและช่วงเช้าที่ผ่านมาพบมีตํารวจไปดักซุ้มติดตามตนอยู่รอบบ้านจนตนต้องออกไปบอกว่า “ผมอยู่บ้าน และยินดีให้ตรวจค้น” ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทําให้รู้สึกไม่สบายใจจึงตัดสินใจเดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง ส่วนเหตุผลที่ออกมาช้าเพราะตนใจจะให้ตํารวจสอบปากคํา “เจ๊อ้อย” อย่างเต็มที่
สําหรับเงิน 71 ล้านบาทที่ประเด็นอยู่ตอนนี้ ทนายตั้ม ระบุว่า ตนเคยพูดไปแล้วและยังยืนยันตามเดิมว่าได้มาโดยเสน่หา แต่ไม่ใช่ในเชิงชู้สาวแต่อย่างใดส่วนเรื่องรถเบนซ์หรูยืนยันว่าราคาตลาด 8-9 ล้าน ไม่มีจริงและเรื่องที่บอกว่าตนเอารถเข้าไฟแนนซ์และผ่อนนั้นไม่เป็นความจริงเพราะเป็นชื่อ “เจ๊อ้อย” ไม่ใช่ไฟแนนซ์ ตนจึงไม่มีสิทธิ์นำรถไปปล่อยเช่าได้และตนเป็นคนรักรถไม่มีทางให้จีนเทาเช่าอย่างแน่นอน
ในส่วนของเงิน 39 ล้านบาท ทนายตั้ม ระบุว่า ข้อมูลที่นําเสนอตอนนี้ตรงข้ามกันทั้งหมด เรื่องจริงคือ “เจ๊อ้อย” ได้มีการพูดคุยกับ “สแกมเมอร์” ที่อ้างตัวเป็นดาราจีน จนมีการโอนเงินไปเพื่อต้องการให้เดินทางมายังประเทศไทย ทั้งนี้ ทนายตั้ม กล่าวว่า ตนมีพยานหลักฐานและตัวบุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ทั้งหมดและไม่คิดจะหนีออกนอกประเทศแต่อย่างใด “บ้านผมอยู่นี้ เงินในบัญชีก็ไม่เคยเอาออก” ยืนยันจะอยู่เพื่อพิสูจน์ตัวเอง
ทั้งนี้ภายหลังทนายตั้มลงบันทึกประจําวันประมาณ 15 นาที ได้เดินทางกลับทันทีพร้อมเปิดเผยสั้นๆว่า “เบื้องต้นตํารวจได้นัดวันเข้าให้ปากคําเพิ่มเติม ซึ่งตนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews