“ช้างศึก” ได้คิวชิงแชมป์อาเซียน ประเดิมเยือนติมอร์เลสเต ที่เวียดนาม

“ช้างศึก” ได้คิวชิงแชมป์อาเซียน ประเดิมเยือนติมอร์เลสเต ที่เวียดนาม

หลังจากสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) ยืนยันสังเวียนแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริก คัพ 2024” ที่จะแข่งขันระหว่างวันที่ 8 ธ.ค.67 – 5 ม.ค.68 ล่าสุดได้มีการยืนยันเวลาแข่งแล้ว โดยทีมชาติไทยเตะ 2 นัดรอบแรกในบ้าน เวลา 20.00 น.

โดยฟุตบอลรายการนี้ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย อันดับ 96 ของโลก เป็นแชมป์มากสุด 7 สมัย จาก 14 ครั้งที่จัด และเป็นแชมป์ 2 สมัยหลังสุด หนนี้ลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ ครั้งแรกที่มีทีมได้แชมป์ 3 สมัยติด

ระบบแข่งรอบแรก แต่ละทีมจะเยือน 2 นัด-เหย้า 2 นัด ส่วนรอบรองชนะเลิศ กับชิงชนะเลิศ แข่งเหย้า-เยือน รอบแรกทีมไทยกลุ่ม A ร่วมกลุ่ม “เสือเหลือง” มาเลเซีย, สิงคโปร์, กัมพูชา และ ติมอร์เลสเต

ล่าสุด สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แจ้งยืนยันสนามและเวลาแข่ง (เวลาไทย) โดยโปรแกรมทีมไทย นัดแรกวันที่ 8 ธ.ค. 67 เยือน ติมอร์เลสเต ที่ไปใช้เวียดตรี สเตเดียม ที่ประเทศเวียดนาม เวลา 20.00 น., วันที่ 14 ธ.ค. 67 พบ “เสือเหลือง” มาเลเซีย ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 20.00 น., วันที่ 17 ธ.ค. 67 เยือน สิงคโปร์ ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ เวลา 19.30 น. และวันที่ 20 ธ.ค. 67 พบ กัมพูชา ที่ราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 20.00 น.

รอบรองชนะเลิศ เลกแรก วันที่ 26 ธ.ค. 67 ที่ 2 กลุ่ม A พบที่ 1 กลุ่ม B/วันที่ 27 ธ.ค. 67 ที่ 2 กลุ่ม B พบ ที่ 1 กลุ่ม A, รอบรองชนะเลิศ เลก 2 วันที่ 29 ธ.ค. 67 ที่ 1 กลุ่ม B พบ ที่ 2 กลุ่ม A/วันที่ 30 ธ.ค. ที่ 1 กลุ่ม A พบ ที่ 2 กลุ่ม B

รอบชิงชนะเลิศ เลกแรกวันที่ 2 ม.ค. 68 เลก 2 วันที่ 5 ม.ค. 68 (กรณี ไทย ได้ที่ 1 กลุ่ม A และเข้าถึงรอบชิงฯ จะได้เล่นในบ้านนัดที่ 2)รายการนี้ ถ่ายทอดสดผ่านทาง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32, AIS PLAY และ ยูทูบ : BG SPORTS

ทีมชาติไทยนั้น ก่อนจะลงแข่งชิงแชมป์อาเซียน จะมีเกมอุ่นเครื่อง 2 นัด วันที่ 14 พ.ย. 67 พบ เลบานอน อันดับ 115 ของโลก และวันที่ 17 พ.ย. 67 พบ ลาว อันดับ 187 ของโลก ทั้ง 2 นัด เตะที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เวลา 19.30 น. โดย มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชใหญ่ จะประกาศชื่อ วันที่ 7 พ.ย. 67 ที่คาดว่าส่วนใหญ่จะเป็นนักเตะชุดชิงแชมป์อาเซียน

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews