“แพทองธาร”หารือ “สีจิ้นผิง” สองฝ่ายเห็นพ้องขยายร่วมมือเศรษฐกิจการค้าการลงทุน ให้มากขึ้น พร้อมแลกเปลี่ยน การแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนสองประเทศ
ที่กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในห้วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อมารับหน้าที่นายกรัฐมนตรี จึงเห็นความผันผวนในภูมิภาคทำให้มีความจำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้นเพื่อสันติสุขและความก้าวหน้า
ซึ่งหลักการตามข้อริเริ่มปรับโลกของจีน เป็นวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลตรงกับหลักการของไทย และตอบโจทย์ความท้าทายในขณะนี้ ฉะนั้นขอยืนยันว่าประเทศไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับจีนทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อความรุ่งเรืองและสงบสุขของภูมิภาคและโลก โดยจะส่งเสริมโลกาภิวัตน์ ความเชื่อมโยงการรวมตัวทางเศรษฐกิจที่เปิดกว้างและครอบคลุม รวมทั้งระบบตลาดเสรีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรอบของเอเปค และความสัมพันธ์ทางการทูต ยกระดับความสัมพันธ์ และวางแผนอนาคตไทย-จีน
โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงตอบรับการเสด็จเยือนจีนอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2568 ตามคำเชิญของรัฐบาลจีน จึงถือเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของความสัมพันธ์ไทย-จีน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีหวังว่าจะมีโอกาสได้ต้อนรับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และภริยา ในการเดินทางที่ประเทศไทยในปีหน้าด้วย
ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ซึ่งมิตรภาพไทย-จีนมีลักษณะพิเศษและมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในทุกระดับและเชื่อว่าจะเจริญรุ่งเรืองลึกซึ้งและกว้างขวางยิ่งยิ่งขึ้นไปอีกใน 50 ปีข้างหน้า ซึ่งจะมีการขยายความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรมและการศึกษา รวมถึงวิทยาการใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านวิทยาศาสตร์ด้านอวกาศ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเชื่อว่าจะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวชี่นชมหลักการความก้าวหน้าของจีนและนโยบายกำลังผลิตคุณภาพใหม่ หรือ new quality productive force ด้วยการเน้นการใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ประสิทธิภาพสูงและคุณภาพสูง สอดคล้องกับหลักการพัฒนาของไทย มุ่งส่งเสริมโลกาภิวัฒน์ การค้าเสรีที่เปิดกว้าง ยึดมั่นในกติการโลก ซึ่งไทยสนไจที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การแก้ปัญหาความยากจนรวมไปถึงนโยบายของจีนในการเผชิญความท้าทายของการเปลี่ยนสภาพภูมิภาคอากาศ การผลิตคุณภาพใหม่รวมทั้งเทคโนโลยีอวกาศ อุตสาหกรรมแห่งอนาคต พลังงานสะอาด และรถยนต์ EV
นอกจากนี้ ไทยยังพร้อมที่จะร่วมมือจีน ภายใต้แนวคิดข้อริเริ่มความศิวิไลซ์โลก หรือ Global Civilization Initiative (GCI) โดยส่งเสริม soft power เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวขอบคุณจีนที่ให้การสนับสนุนประเทศไทยไทยเข้าเป็นสมาชิก BRICS (บริกส์) หรือกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในทุกระดับทั้ง การประชุม กรอบความร่วมมือเอเชีย ( ACD ) , การประชุมกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) รวมทั้งความร่วมมือสาขาใหม่ๆ ระหว่างกัน เช่น พลังงานสะอาด เทคโนโลยีดิจิทัล
พร้อมกันนี้ ยังยินดีนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทย ขยายความร่วมมือการค้าการลงทุน และความร่วมมือด้านการศึกษา เยาวชน และการเชื่อมโยงระหว่างภาคประชาชน รวมทั้งการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามแดนและภัยออนไลน์ ต่างๆ ด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews