Home
|
ข่าว

นายกฯ แสดงวิสัยทัศน์ปิดฉากการประชุมเอเปค 2024

Featured Image

 

 

 

 

นายกฯ แสดงวิสัยทัศน์ หลังปิดฉากการประชุมเอเปค 2024 พร้อมเน้นย้ำแนวคิดสร้างความร่วมมือและก้าวไปสู่เป้าหมาย เพื่อสร้างโอกาส ส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจ และผลักดันเศรษฐกิจสีเขียว

 

 

 

 

วันที่ 16 พ.ย.67 เวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงลิมา ซึ่งช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง ณ ลิมา คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ สาธารณรัฐเปรู น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุม APEC Economic Leaders’ Retreat โดยมี นางดินา เอร์ซิเลีย โบลัวร์เต เซการ์รา ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเปรู เป็นประธาน

 

พร้อมเปิดเผยภายหลังการประชุมนัดสุดท้ายก่อนพิธีปิดการประชุมเอเปค ครั้งที่ 31 อย่างเป็นทางการ ว่า ขอบคุณประธานาธิบดีเปรูและประชาชนชาวเปรูในการต้อนรับอย่างอบอุ่นตลอดการเดินทางมากรุงลิมา และขอขอบคุณกรรมการผู้จัดการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ที่นำเสนอข้อมูลเชิงลึกให้กับสมาชิกเอเปคทราบถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในปัจจุบัน
 

โดยย้ำว่า “โลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น ประเทศไทยในฐานะผู้ส่งเสริมสันติภาพและความมั่งคั่งร่วมกัน เชื่อว่าเอเปค เป็นเวทีที่สำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจที่มีอย่างมากระหว่างสมาชิกเอเปคด้วยกัน และมั่นใจว่าด้วยการทำงานร่วมกันของสมาชิกจะสามารถสร้างเวทีการแข่งขันที่เท่าเทียมกันและมีปัจจัยใหม่ๆ ในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชนทุกประเทศ โดยมีประชาชนและโลกเป็นศูนย์กลาง

 

 

ก่อนกล่าวถึงแนวคิดในการสร้างความร่วมมือและก้าวไปสู่เป้าหมายนี้ร่วมกันของประเทศสมาชิกเอเปค ว่า เราจะ “สร้างโอกาสสำหรับทุกคน ” โดยสมาชิกเอเปคจะทำงานร่วมกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเพื่อบริหารจัดการกับเศรษฐกิจ “ในระบบ” ที่สมาชิกสามารถตกลงร่วมกันได้ ขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็เข้าใจถึงความท้าทายในการบริหารการ “ทำงานนอกระบบ ”

 

เนื่องจากยังมีแรงงานและธุรกิจขนาดเล็กมากกว่าครึ่งยังอยู่ในการทำงานนอกระบบ รัฐบาลไทยจึงได้ดำเนินการแก้ไข เพื่อสนับสนุนให้เกิดการทำงานในระบบให้เติบโตในทุกมิติ ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรม รวมถึง AI มาใช้เป็นกลไกสำคัญของไทย ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ผ่านระบบการเงินดิจิทัลให้กลุ่มเปราะบางของไทยให้มีโอกาศทัดเทียมกันในการดำรงชีวิต โดยมีเป้าหมายในการขจัดความยากจน

 

นอกจากนี้ ประเทศไทยกำลังพิจารณานำ “Negative Income Tax” ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลที่จะช่วยให้คนที่อยู่ในประเทศไทย ทั้งที่เสียภาษีและไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี มาอยู่ในระบบฐานข้อมูลเพื่อจะจัดสรรประโยชน์จากรัฐที่เป็นธรรมมากที่สุด

 

เอเปคต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียวตามเป้าหมายที่เคยประชุมร่วมกันที่กรุงเทพฯ หรือ “ BCG ” ซึ่งประเทศไทยตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในการเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน โดยวางแผนการเพิ่มพลังงานสะอาด 20 กิกะวัตต์ภายใน 20 ปีข้างหน้า เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2065

 

โอกาสนี้ ประเทศไทย จึงขอให้เอเปคเป็นผู้นำในการกำหนดเป้าหมายที่สำคัญในการเปลี่ยน ไปสู่ BCG รวมทั้งสนับสนุนให้มีการหารือเกี่ยวกับการพัฒนาตลาดและการค้าเครดิตคาร์บอนร่วมกัน ซึ่งไทยเชื่อมั่นว่าเอเปคสามารถเป็นผู้นำในการ “สร้างอนาคตที่ยั่งยืน” ร่วมกันได้

 

สำหรับการประชุมเอเปค 2024 ที่ประชุมได้รับรองเอกสารผลลัพธ์ 3 ฉบับ ได้แก่ (1) ปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (2) ถ้อยแถลงอิชมา ว่าด้วยมุมมองใหม่ในการขับเคลื่อนเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก และ (3) แผนงานลิมา เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจในระบบและเศรษฐกิจโลกของเอเปค ซึ่งถือว่า เป็นการเสร็จสิ้นการประชุมอย่างเป็นทางการ

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube