สุดเหิมเกริม! ผู้กองสืบโคกคราม ถูก ร.ต.ท. โรงพักเดียวกัน ยกพวกรุมยำ คาร้านเหล้าซอยมหาดไทย ด้าน ผู้กำกับ อ้าง ยังไม่ทราบรายละเอียดขอคุยกับลูกน้องก่อน
ความคืบหน้า กรณี ร.ต.อ.เกียรติคุณ รองสารวัตรสืบสวน สน.โคกคราม ถูก ร.ต.ท.นันท์กิตติ์ อายุ 42 ปี ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปรามสน.โคกคราม กับพวก ทำร้ายร่างกาย ภายในร้านละเมอ ซอยลาดพร้าว 122 หรือ ซอยมหาดไทย เมื่อช่วง 02.00 น. ของวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา โดย ร.ต.อ.เกียรติคุณ ได้รับบาดเจ็บ กระดูกโหนกแก้มซ้ายร้าว มีเลือดออกในตาขาวทั้งสองข้าง มีอาการฟกช้ำที่หน้า และศีรษะ ซึ่งหลังเกิดเหตุอาวุธปืนกล็อก ขนาด 9 มม. สีดำ มูลค่าราคาประมาณ 78,000 บาท หายไปในวันเกิดเหตุ
ล่าสุด ร.ต.อ.เกียรติคุณ เปิดเผยเพียงสั้นๆว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจร่างกายและบาดแผลของแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ ไม่สะดวกในการให้ข้อมูล แต่ยอมรับว่า หลังจากรักษาตัวแล้วจะเดินทางไปที่ต้นสังกัด จากนั้นได้วางสายไป
ทางด้าน พ.ต.อ.ประภาส แก้วฉีด ผู้กำกับการ สน.โคกคราม เปิดเผยว่า ในส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองทราบแล้ว แต่ในเรื่องของคดี อยากให้ไปสอบถามที่ สน.วังทองหลาง ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้ง 2 คน ยังไม่ได้เรียกมาสอบถามรายละเอียด ส่วนในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา จะมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ ขอคุยกับผู้ใต้บังคับบัญชาก่อนว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร จึงจะสามารถดำเนินการต่อได้
ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อกลางดึกของวันที่ 12 พ.ย.2567 วันเกิดเหตุ ร.ต.อ.เกียรติคุณ ได้แวะไปที่ร้านละเมอ เพื่อไปหาพี่ชายซึ่งเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว และได้นั่งเล่นพูดคุยกับพนักงานในร้าน ต่อมา ได้มี นายบ่าว ซึ่งเคยเป็นพนักงานที่ร้าน ได้พากลุ่มเพื่อนจำนวนประมาณ 10 ราย มาเที่ยวที่ร้านตอนที่ร้านใกล้จะปิด ในจำนวนนั้นมี ร.ต.ท.นันท์กิตติ์ ตำรวจฝ่ายปราบปราม สน.โคกคราม เดินเข้ามาด้วย ผู้เสียหาย จึงได้เดินไปทักทาย หลังจากนั้นจึงได้นั่งร่วมวงที่โต๊ะเดียวกัน ที่บริเวณด้านหลังสุดของร้าน และเกิดมีปากเสียงกัน ก่อนที่กลุ่มนายบ่าว จะเข้ามารุมทำร้ายจนบาดเจ็บ และในกลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้ชิงเอาอาวุธปืนของผู้เสียหายไปด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
