แม่ทัพภาค 2 จัดชุดเฉพาะกิจกวาดล้างยาเสพติดทะลักเข้าไทยช่วงปีใหม่ พบ 40 วันจับยาได้ 25 ล้านเม็ด เตรียมเปิดร้อยเอ็ดโมเดล อีก 2 จังหวัด “สกลนคร-นครพนม”
พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาคงภายในภาค 2 ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งการระบาด 20 จังหวัดภาคอีสาน หลังจากเป็นประธานเปิดกิจกรรมพบปะพัฒนาสัมพันธ์สื่อมวลชน ประจำปี 2568 ซึ่งมีผู้บังคับบัญชากองทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 2 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และสื่อมวลชนทุกแขนง เข้าร่วมฯ ว่า กองทัพภาคที่ 2 มีบทบาทชัดเจนในการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.ภาค 2)
กองกำลังป้องกันชายแดน และรับผิดชอบด้านยาเสพติดโดยตรง ซึ่งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) เป็นหน่วยที่รัฐบาลได้จัดตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะ รับผิดชอบ 7 จังหวัด 25 อำเภอ ตั้งแต่ จ.เลย – จ.อุบลราชธานี ไม่ให้ยาเสพติดทะลักเข้ามา โดยยึดนโยบาย ของนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารบก ตามวาระแห่งชาติในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด ซึ่งได้บูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งกำลังป้องกันชายแดน พลเรือน ตำรวจ ทหาร ผู้ว่าฯจังหวัด ผู้การตำรวจจังหวัด เพื่อนำเครื่องไม้เครื่องมอบุคลากรทุกภาคส่วนมาใช้ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้มีความเด็ดขาดในพื้นที่ นำไปสู่การจับกุมผู้ค้า และขยายผลไปสู่กลุ่มนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง เราประสงค์ต้องการให้มีการยึดทรัพย์กับกลุ่มนายทุนให้ได้
ในปี 2568 จะนำ “ร้อยเอ็ดโมเดล” มาใช้ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 เพิ่มขึ้นอีก 2 จังหวัดคือ จ.สกลนคร และ จ.นครพนม เพื่อให้เป็นตัวอย่างในการปราบปรามยาเสพติดให้ได้ครบวงจร ตั้งแต่การป้องกันปราบปรามและการบำบัด ซึ่งใช้ได้ผลมาแล้ว ทั้งจะระดมทรัพยากรเครื่องมือจากทุกภาคส่วนลงไปดำเนินการใน 2 จังหวัดนี้ ส่วนเป้าหมายจะต้องลดการนำเข้ายาเสพติดที่ลักลอบผ่านแนวชายแดนให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยสร้างชุมชนเข้มแข็ง ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตลอดแนวชายแดน ในการให้ข้อมูลข่าวสาร นำไปสู่การจับกุมให้ได้ ซึ่งหลักๆ ก็คือ ไม่ให้ยาเสพติดหลุดจากแนวชายแดนเข้าไปสู่พื้นตอนใน
ต้องสกัดเอาไว้ให้ได้ ที่ผ่านมาล่าสุด ได้จับขบวนการค้ายาเสพติดได้ 3 ล้าน 5 แสน 6 หมื่นเม็ด เมื่อคืนที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมผู้ต้องหา 2 คน เป็น ชาย 1 คน หญิง 1 คน ที่ อ.ท่าลี่ จ.เลย สำหรับสถิติการจับกุมตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน ในพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด 7 จังหวัด 25 อำเภอ จำนวน 172 ครั้ง ผู้ต้องหา 281 คน โดยมีของกลางยาบ้ามากถึง 23,794,884 เม็ด, ไอซ์ 1,040.295 กิโลกรัม, เฮโรอีน 85.63 กิโลกรัม, เคตามีน 3.79 กิโลกรัม, และอื่นๆ (ยาอี 1,484 เม็ด, happyWater 410 ซอง, ฝิ่น 0.66 กรัม) และสถิติการจับกุมในพื้นที่อำเภอชายแดนของจังหวัดเลย จำนวน 32 ครั้ง ผู้ต้องหา 39 คน โดยมีของกลางยาบ้ามากถึง 4,355,271 เม็ด
ทั้งนี้ ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนหรือในพื้นที่จังหวัดตอนในทั้ง 20 จังหวัด ต้องการแจ้งเบาะแส ขอให้แจ้งไปที่หน่วยงานราชการที่อยู่ใกล้ที่สุด หรือหน่วยงานราชการที่ท่านไว้วางใจที่สุด เพื่อเป็นเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่รัฐนำไปสู่การจับกุมกลุ่มขบวนการ ไม่ว่าจะเป็นรายเล็ก รายใหญ่ ขอข้อมูลทั้งหมด ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนจะทำให้เจ้าหน้าที่รัฐทำงานได้ง่ายขึ้นและมีแหล่งที่มาของข่าวที่เชื่อถือได้
ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐหรือกำลังพลหากตรวจพบว่า ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ทั้งกองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายชัดเจน จะต้องกวาดบ้านตัวเอง ให้สะอาดก่อน ทุกหน่วยงานจะต้องไปตรวจปัสสาวะ ตรวจพฤติกรรมของลูกน้อง รวมถึง ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ และกองบัญชาการกองทัพ ก็ต้องตรวจด้วย ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ได้ดำเนินการตรวจปัสสาวะ หาสารเสพติดกำลังพล ไปแล้ว 500 ชุด และมีข้อสั่งการเน้นกำชับในเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews