นราฯฝนไม่แผ่ว! ท่วมที่ลุ่มต่ำ เร่งติดเครื่องสูบ ด้านชาวบ้านอัดอั้น! น้ำท่วมปีนี้คงไม่ได้เงินเยียวยาเหมือนปีที่ผ่านมา
กรมอุตุนิยมวืทยาได้แจ้งเตือนให้ 8 จังหวัดฝั่งอ่าวไทย เตรียมพร้อมรับมือกับอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นฉับพลัน ทั้งน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมสูงและดินโคลนถล่ม ล่าสุด ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก คาดการณ์ว่า ฝนในพื้นที่ภาคใต้จะกลับมามีกำลังแรงเป็นระลอกที่ 2 โดยช่วงวันที่ 26 พ.ย.นี้ ไปจนถึงเดือน ธ.ค.67 ถือว่าเป็นการส่งท้ายปีเก่าที่ต้องลุ้นระทึกกับมวลน้ำทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ทางด้าน ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานต่างๆ จับตาดูระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการระบายน้ำฝนให้ไหลได้คล่องตัวตลอดเวลา จะช่วยลดปัญหาน้ำท่วมและน้ำรอระบายได้มาก ส่วนขยะ ใบไม้ใบหญ้า ที่ไหลมากับน้ำฝนที่อุดตะแกรงระบายน้ำให้นำออกให้หมดออก เพื่อให้น้ำฝนไหลลงท่อระบายน้ำได้ รวมทั้งเครื่องสูบน้ำและกระสอบทรายต้องใช้งานได้ ส่วนเรือประมงขอให้งดการออกเรือช่วงนี้ก่อน เพราะคลื่นลมในทะเลค่อนข้างแรง
นายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 17 ซึ่งกำกับดูแลการบริหารจัดการน้ำและการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ โดยที่บริเวณปลายคลองลาน ต.พร่อน อ.ตากใบ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ขนาด 12 นิ้ว 3 เครื่อง ขนาด 14 นิ้ว 2 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำระบบไฮดรอลิค (HYDRO FLOW) ขนาด 24 นิ้ว 2 เครื่อง, ประตูระบายน้ำปากคลองมูโนะ และ พนังกั้นน้ำมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก ติดตั้ง Big Bag และกระสอบทรายบริเวณพนังกั้นน้ำมูโนะ, บริเวณท่อระบายน้ำปลักปลา ปลายคลองระบายน้ำศูนย์ราชการ บ้านยะกัง อ.เมืองนราธิวาส ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง และเครื่องสูบ เคลื่อนที่ 14 นิ้ว อีก 2 เครื่อง
ผลการตรวจเรดาร์ตรวจอากาศ จ.นราธิวาส เวลา 15.15 น.วันนี้ (23 พ.ย.67) โดยสถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาส ตรวจพบฝนฟ้าคะนองปานกลางถึงหนัก ปกคลุมทุกอำเภอของ จ.นราธิวาส เคลื่อนทางทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก ส่วนลุ่มน้ำ 3 สายหลักยังต่ำกว่าตลิ่ง และจากการตระเวนสำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่า มีบ้านเรือนที่ปลูกสร้างต่ำกว่าถนน น้ำไหลเข้าท่วมบ้างแล้ว รวมทั้งพื้นที่ทางการเกษตรบางส่วนที่อยู่ในที่ราบลุ่ม
ขณะที่พื้นที่ที่รองรับมวลน้ำจากเทือกเขาสันกาลาคีรี คือ อ.สุคิริน และเทือกเขาเมาะแต ที่กินพื้นที่ อ.ระแงะ, เจาะไอร้องและจะแนะ เป็นจุดที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากการตัดไม้ของกลุ่มนายทุน ส่งผลให้ไม่มีต้นไม้รองรับมวลน้ำ จนไหลบ่าลงมาสู่ที่ราบและสมทบกับแม่น้ำหลายสาย ในช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา
ทางด้าน นางไพร ชาวบ้านรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส ได้ระบายความในใจต่อผู้สื่อข่าวว่า ช่วงปลายปีที่แล้ว ที่น้ำท่วมหนักมาก ที่บ้านนี่คือ น้ำมันสูงขึ้นไปจนเกือบจะถึงเตียงแม่ที่ติดเตียงอยู่ ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออก เลยใช้กระบะที่ใช้กวนปูน ให้แม่นอนในนั้นแล้วช่วยกันลากออกจากบ้านเพื่อให้ถึงจุดที่น้ำท่วมไม่ถึง
“ครั้งนี้ทำใจว่าถ้าน้ำจะท่วมอีกก็ให้ท่วมไป แต่สิ่งที่มันคาใจไม่ใช่เฉพาะป้านะ ในแถบนี้คือส่วนใหญ่ไม่ได้รับเงินเยียวยาาเพื่อซ่อมบ้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียหายแม้แต่บาทเดียว เงินได้มาตั้งเยอะแล้วมันหายไปไหนหมด คนที่ได้ก็ได้เยอะหลักหมื่น บางคนได้ 100 บ้าง 700 บ้าง ครั้งนี้ก็อย่าไปหวังว่าจะได้เงินเยียวยา ไปประท้วงสองครั้งที่ศาลากลาง แต่เรื่องก็เงียบ”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
