โดยนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบว่า จุดเกิดเหตุเป็นโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 ทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ตอน 1 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 9 ราย สูญหายอีก 2
จึงนําตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงพร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดําเนินการแก้ไข ซึ่งทางผู้รับเหมาได้ประสานเครนยกขนาด 400 ตัน จํานวน 1 คัน และขนาด 200 ตันอีก 2 คัน เพื่อยกเครนที่ถล่มลงมาออกคาดว่าจะเริ่มดําเนินการในช่วงบ่าย
อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แท้จริงได้ โดยจะให้วิศวกรของบริษัทรับเหมาเจ้าของโครงการ เข้ามาตรวจสอบรายละเอียดหาสาเหตุอีกครั้ง ซึ่งได้กรมทางหลวงจัดเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เข้าประเมินความปลอดภัย ก่อนการดำเนินการ
ด้านนายวุฒินันทน์ ปัทมวิสุทธิ์ ประธานสาขาวิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สาเหตุของโครงเหล็กถล่มหากดูจากด้านนอกคาดว่าจะเกิดเหตุตอนที่กำลังประกอบ ซึ่งเป็นเครนชนิดหนึ่งที่ใช้ยกกล่องคอนกรีตในการประกอบเป็นทางวิ่ง โดยต้องไปดูอีกครั้งหนึ่งว่าสาเหตุเกิดขึ้นขณะเคลื่อนย้ายเกิดจากตัวโครงสร้างส่วนใด เพราะโครงเหล็กที่ห้อยอยู่มีน้ำหนักหลายร้อยตัน รวมถึงมีการขยับและเคลื่อนที่ของ ชุดลอกที่รับน้ำหนัก
โดยเฉพาะช่วงที่ขยับอาจจะทำให้เกิดแรงบางด้าน ซึ่งต้องคุยกับผู้ควบคุมงานประกอบกับการหาสาเหตุที่แท้จริง อย่างไรก็ตามคาดว่าจะใช้เวลาหลายวัน เพราะโครงสร้างที่ทรุดตัวลงมามีน้ำหนักหลายร้อยตันซึ่งการเคลื่อนย้ายจึงต้องเลาะทีละส่วนและตัดแยกส่วนเพื่อให้มีน้ำหนักที่ลดลงแล้วค่อยลำเลียงลงมาด้านล่าง โดยเริ่มรื้อถอนโครงสร้างด้านบนออกก่อน ซึ่งเป็นงานที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน
ขณะที่นายธนสาร สิทธาภา ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร กล่าวว่า เดิมทีกรมทางหลวงมีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยโครงการก่อสร้างอยู่แล้วซึ่งสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปได้เนื่องจากยังไม่ได้มีการเข้าตรวจสอบโครงสร้างอย่างละเอียดเพราะต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญรวมถึง เครื่องมืออุปกรณ์เคลื่อนย้ายที่มีศักยภาพประสิทธิภาพ
ซึ่งที่ผ่านมากรมทางหลวงมีมาตรการก่อสร้าง โดยเฉพาะการยกโครงสร้างเครน ซึ่งจะทำในช่วงเวลากลางคืนเท่านั้นและจะมีการปิดถนนเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้รถของประชาชนเข้ามาใกล้กับจุดที่มีการก่อสร้าง เบื้องต้นกำหนดกรอบระยะเวลาว่าจะต้องทำให้แล้วเสร็จภายในคืนวันนี้เพื่อให้การจราจรบนถนนพระราม 2 กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ตํารวจทางหลวงได้ประชาสัมพันธ์ให้หลีกเลี่ยงเส้นทางทั้งขาเข้าและขาออกกรุงเทพมหานครเนื่องจากการจราจรบนถนนพระราม 2 เข้าขั้นวิกฤต
โดยขาออกจากกรุงเทพฯท้ายแถวติดยาวสะสม 15 กิโลเมตร ซึ่งทีมข่าวได้จับเวลาเดินทางจากบริเวณถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง มายังจุดเกิดเหตุใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews