การแข่งขันประกวดนางงามระดับโลกถือว่าเป็นวาระแห่งชาติของคนไทยที่มารวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมาย รวมเหล่าพี่กะเทยและแฟนๆนางงามจากทั่วประเทศมาไว้ที่นี้ เพราะประเทศไทยก็มีตัวแทนส่งไปในการประกวดบนเวทีใหญ่ทุกปี ไม่ใช่เพียงแต่ความสวยงามแต่คงความสามารถในหลายๆด้านเพื่อจะพาไปถึงจุดนั้นได้ แต่นั้นเอง…ถึงแม้ตัวแทนประเทศไทยมีศักยภาพแบบหาที่ติไม่ได้ แต่ทำไมถึงยังไม่ได้มงกุฎในเวทีระดับโลกมาครองสักที?
คุณภาพนางงามที่ตามหา มีอยู่จริงหรือไม่
หากมองเข้าไปในเวทีระดับโลกแล้วนั้น ในทุกๆปีคนที่เหมาะจะได้มงกุฏ ตัวนางงามมักจะมีบุคลิกและจริตของเวทีซ่อนอยู่เสมอ ซึ่งก็ขึ้นอยู่บริบทเวทีตามแบบยุคสมัยที่ต่างกันออกไป ไม่ว่าจะทั้งความงาม ความสามารถที่สะท้อนภาพลักษณ์ของประเทศได้ อย่างเป็น Global Citizen โดยจะรู้และสนใจความเป็นอยู่ของสังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมของประเทศที่ไป กล่าวคือการออกเดินทางไปทุกที่ให้เปรียบเสมือนว่าทุกทีที่ไปคือบ้านของตัวเอง
แล้วนางงามที่เวทีต้องการคือแบบไหน เราก็คงจะตั้งคำถามกลับอีกว่า นางงามที่เวทีต้องการหรือนางงามที่เวทีวางไว้เป็นแบบไหน เพราะนางงามทุกคนล้วนมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน มาตรฐานความสวยก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย การที่เวทีจะวัดผลได้นั้นควรมีเกณฑ์เวทีที่ชัดเจนและยุติธรรม ไม่ใช่เพียงแค่กระแสหรือความคิดส่วนตัวของกรรมการเท่านั้น
นางงามไทยในสายตาเวทีระดับโลก
หากพูดถึงเรื่องนางงามไทยที่เป็นตัวแทนและสามารถสร้างอิมแพคให้กับประเทศไทยโดยคำนึงถึงการตลาดและภาพลักษณ์ที่ผู้เข้าประกวดสามารถสร้างขึ้นให้เห็นในสายตาผู้ชมทั่วโลก ขอยกตัวอย่างตัวแทนประเทศไทยปี 2023 อย่าง แอนโทเนีย โพซิ้ว ที่ได้ไปดูวัฒนธรรมการใช้ชีวิต การทำอาหารของประเทศนั้นก่อนเข้ากองประกวด แถมยังแชร์บนแพลตฟอร์มเพื่อให้แฟนๆนางงามร่วมถึงคนที่ติดตามได้รับรู้ถึงความเป็นอยู่อีกด้วย ซึ่งนั้นก็ทำให้คนในพื้นที่รักและสนับสนุนเธอตอนประกวด
อย่างตัวแทนประเทศไทยล่าสุดปี 2024 อย่าง โอปอล สุชาตา ช่วงศรี ที่ได้สร้างคอนเทนต์การแต่งกายและการแต่งหน้าของประเทศเจ้าบ้านของการประกวด ไม่เพียงความสร้างสรรค์เท่านั้นแต่ได้สร้างอิมแพคให้กับคนในประเทศให้หันมาสนใจเป็นจำนวนมาก หลายปีมานี้ประเทศไทยได้ตัวแทนประเทศไทยไปประกวด ก็นับว่าเป็นสายสะพายที่แข็งแกร่งเพราะการันตีด้วยประสบการณ์ อย่างแอนโทเนียที่ชนะการการประกวดเวทีแกรนด์สแลมมาแล้ว หรือการทำโครงการเกี่ยวกับการบริจาคช่วยเหลือเด็กและสังคม และในปีล่าสุดอย่างโอปอล สุชาตามีโครงการมะเร็งเต้านม รวมถึงทัศนคติ และความสวยแบบตะโกน ก็ทำให้คิดว่านี่แหละผู้จะเอามงกุฎกลับมาได้อย่างแน่นอน
แต่แล้วนางงามมีคุณภาพขนาดนี้ แต่ทำไมถึงยังไม่ได้มงกุฎกันล่ะ?
เสียงของแฟนนางงามที่ตั้งคำถามนี้กันมาทุกปี และตอกย้ำความเจ็บปวดได้เสมอ หลายครั้งที่เห็นนางงามไทยที่มีคุณสมบัติเกินจะหาข้อติ และการแข่งขันแถบจะไม่มีอะไรผิดพลาดแต่นั้นก็ไม่เป็นอย่างที่คิด เลยทำให้ผู้ชมและหลายคนตั้งคำถามถึงความยุติธรรมของการตัดสิน
นอกจากนั้นชาวเน็ตบางส่วนบอก กรรมการที่เป็นแถบละตินเป็นส่วนมาก การที่เอาความเป็นเอเชียเข้าไปคงเป็นเรื่องที่ยากตราบใดที่ยังมีพูดถึงความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมอยู่ ถึงแม้ว่านางงามไทยจะมีศักยภาพก็ตาม หรือในกรณีที่กรรมการไม่ได้รู้จักคนที่นางงามตอบคำถาม ก็อาจจะทำเสียคะแนนตรงนี้ไปได้ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นส่วนที่ผู้ชมแสดงความคิดกันบนโลกออนไลน์
“เหนื่อยจะเชียร์’’ เมื่อตัวแทนนางงามไทยไม่อาจชนะใจเธอได้
เหนื่อยจะเชียร์คงไม่ได้หมายถึงตัวนางงาม แต่หมายถึงระบบการจัดการประกวดของเวที เพราะทุกครั้งของการแข่งขัน แฟนนางงามไทยต่างก็ลุ้นและกรี๊ดเสียงเชียร์กันอย่างสุดเสียง แต่เมื่อผลการประกวดออกมาไม่ได้เป็นอย่างใจหวัง เพราะความสามารถและศักยภาพของนางงามไทยสามารถไปได้ไกล ไม่ว่าจะการแสดงบนเวทีและการตอบคำถาม เพราะผลงานที่ออกสู่สารธรณชนไม่เพียงแค่ประเทศเราที่มองเห็นแต่มีอีกหลายประเทศที่จับตาดู แต่สุดท้ายเมื่อไรที่ไทยแลนด์ได้ยืนบนเวที คนไทยและพี่กระเทย ก็จะกลับมารวมตัวกันเชียร์ให้ไทยแลนด์
ทั้งนี้ทั้งนั้นประเทศไทยก็ยังมีโอกาสในการก้าวข้ามขีดจำกัดและคว้ามงสามในเวทีโลกได้ ตัวนางงามที่มีการปรับกลยุทธ์ใหม่อยู่เสมอเและสร้างภาพลักษณ์ที่สามารถสะท้อนถึงจุดยืนของตัวเอง การสื่อสารและมีการตลาดที่แข็งแกร่งในสายตากรรมการและองค์กร กระนั้นเราก็ได้ตัวแทนถือสายสะพายไทยแลนด์ที่แข็งแกร่งและสามารถพาไทยแลนด์ไปถึงจุดสูงสุดในรอบ 35 ปีกับรองอันดับ 1 และผู้เขียนก็เชื่อว่าในอนาคตจะต้องมีหญิงสาวที่แข็งแกร่งสามารถทำให้ประเทศไทยได้รับมงกลับมาแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
