เปิดยุทธการทลายจีนเทา โยง 442 บริษัท เงินหมุน 3.6 พันล.
ตำรวจ เปิดยุทธการทลายรัง จีนเทา Nominee Sweep ep.2 พบที่บริษัทที่เกี่ยวข้องรวม 442 บริษัทเงินหมุนเวียนกว่า 3,605 ล้านบาท
วันนี้ (4 ธ.ค 67) เวลา 10.20 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช. และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ โดย นาย นภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันแถลงข่าว เปิดยุทธการทลายรังมังกรเทา Nominee Sweep ep.2 พบที่บริษัทที่เกี่ยวข้องรวม 442 บริษัทเงินหมุนเวียนกว่า 3605 ล้านบาท
สืบเนื่องจาก กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท ดังกล่าว พบว่ามีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้งกรณีใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคล จึงได้ขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย เช่น สำนักงานบัญชี /โกดัง/คลังสินค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ร้านรับแลกเงินต่างประเทศ/ เงินดิจิทัล บริษัทอสังหาริมทรัพย์และบ้านหรูที่ถือครองโดยผิดกฎหมาย
จากการตรวจค้นรวบรวมหลักฐานและพยานเอกสารที่ตรวจยึดทำให้พบแผนประทุษกรรมในการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือการจดทะเบียนบริษัทโดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง หรือเรียกว่า นอมินี ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในส่วนที่เกินกว่าที่กำหนดเพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐมาประกอบธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทยตลอดจนการถือสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ และการจดทะเบียนบริษัทในลักษณะของบริษัทม้าเพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารรับโอนผลประโยชน์จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและใช้ในการฟอกเงิน
ผลการปฏิบัติ พบนายทุนจีน ,มาเลเซีย(สัญชาติจีน) รวม 8 ราย ว่าจ้างบริษัทบัญชีรวม 14 บริษัทจดทะเบียนนิติบุคคลเพื่อเปิดบัญชีธนาคารโดยมีทนายความ ผู้ทำบัญชี ผู้รับมอบอำนาจในการจดทะเบียน เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และจากการขยายผลพบนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง 198 บริษัท บุคคลธรรมดา 695 ราย เป็นต่างชาติ 37 ราย คนไทยคนไทย 658 ราย ตรวจยึดบัญชีธนาคาร 314 บัญชีเงินหมุนเวียนกว่า 3600 ล้านบาท
ทั้งนี้ยังพบ สำนักงานบัญชี บริษัทกฎหมาย สำนักงานทนายความ มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นกับการกระทำความผิดโดยรับรองลายมือชื่ออันเป็นเท็จในเอกสารที่ใช้ การจดทะเบียน มีมีความผิด พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและประมวลกฎหมายอาญา จึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บัญชี และทนายความ จำนวน 25 ราย รวมทั้งได้มีหนังสือแจ้งไปยังสภาทนายความและสภาวิชาชีพบัญชีเพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews