Home
|
ข่าว

“ภูมิธรรม” ย้ำร่างพรบ.ระเบียบกห.”ประยุทธ์”ไม่ใช่ของเพื่อไทย

Featured Image
“ภูมิธรรม” ยังไม่ตัดสินใจคงอำนาจนายกฯ สกัดรัฐประหารหรือไม่ บอกรอกลาโหมปรับแก้ หลังที่ประชุมให้ทบทวน ย้ำ ร่างของ “ประยุทธ์” ไม่ใช่ของเพื่อไทยหลังโดนกระแสตีกลับ

 

 

 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ประกาศถอนร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมจนทำให้พรรคเพื่อไทยถูกกระแสตีกลับว่ายอมมากเกินไป ว่า ร่างที่นายประยุทธ์ ถอนไป เป็นร่างส่วนตัวในฐานะที่เป็น สส.เพื่อไทย ซึ่งนายประยุทธ์ ได้ฟังความเห็นจากส่วนต่างๆ มากแล้ว ก็จะถอนไปเพื่อปรับเปลี่ยนแก้ไขก็รอดูว่าจะปรับเปลี่ยนอย่างไร ซึ่งไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย เพราะยังไม่ได้เข้าที่ประชุมพรรค ทั้งที่ประชุม สส. และคณะกรรมการบริหารพรรค

 

 

 

ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องดีเพราะนายประยุทธ์ได้ฟังเสียงสะท้อน ที่มีทั้งคัดค้านและสนับสนุน ก็กลับไปปรับให้เกิดความเหมาะสม ขณะที่ส่วนตัวไม่ขอแสดงความเห็นว่าควรตัดหรือเพิ่มเติมเรื่องใด ให้เป็นหน้าที่ของนายประยุทธ์ จะดีกว่า และเท่าที่ฟังมาบางเรื่องก็มีการคัดค้าน บางเรื่องก็สนับสนุน ซึ่งตนคิดว่าเรื่องแบบนี้ทำเพื่อให้มีการแก้ไขปัญหา จึงให้แต่ละฝ่ายช่วยกันดูและพิจารณา รวมถึงตอบสนองความต้องการประชาชนมากที่สุด โดยไม่กระทบกระเทือนการทำงานในการแก้ปัญหา

 

 

ส่วนได้เห็นร่างของกระทรวงกลาโหมที่คงอำนาจให้นายกฯ สั่งพักราชการทหารที่คิดทำรัฐประหาร เพื่อเสนอให้รัฐมนตรีกลาโหมตัดสินใจว่าจะคงอำนาจนี้ไว้หรือตัดทิ้ง นายภูมิธรรม ระบุว่า ตนได้เห็นร่างแล้ว เป็นฉบับที่นายสุทิน คลังแสง อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เสนอไว้ โดยวานนี้ตนได้ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองที่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคงและกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมาย ที่ประกอบด้วยหลายส่วน เช่นกฤษฎีกา สภาพัฒน์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงกลาโหม

 

 

ซึ่งตนนั่งเป็นประธาน ก็มีการหารือกันหลายประเด็นและมีความเห็นของหลายส่วน ที่อยากให้ปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสม รวมถึงเพิ่มเติม โดยทางพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์รัฐมนตรีช่วยกลาโหมได้รับเรื่องทั้งหมดไว้ทบทวน ซึ่งตนได้ย้ำว่า หากจะทบทวนก็ให้ส่งกลับเข้ามาเร็วที่สุด จะได้ประกบร่างของฝ่ายค้านที่ยื่นเอาไว้แล้ว จากนี้ก็รอให้ทุกอย่างเป็นไปตามความเหมาะสมและกระบวนการ

 

 

 

อย่างไรก็ตามนายภูมิธรรม ปฏิเสธที่จะตอบข้อท้วงติง หรือข้อเสนอในที่ประชุม ที่ให้กระทรวงกลาโหมกลับไปแก้ไข โดยย้ำว่าให้กระทรวงกลาโหมกลับไปพิจารณาก่อนสิ่งที่เสนอมามีเรื่องไหนที่เห็นตรงกันส่วนที่เห็นต่าง ก็ยังอยู่ในคณะกรรมการกลั่นกรองที่สามารถพูดคุยกันได้

 

 

ส่วนตัวจะให้คงอำนาจนายกฯในการสั่งพรรค เพื่อสกัดรัฐประหารหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ขอกลับไปดูข้อสังเกตของทุกฝ่าย เพื่อหาสิ่งที่ที่ดีที่สุดดีกว่าเมื่อถามว่าปัจจุบันการป้องกันการรัฐประหารกฎหมายเพียงพอหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า กฎหมายการป้องกันรัฐประหารมีอยู่แล้ว ซึ่งรุนแรงมากกว่าร่าง พ.ร.บ.ของกระทรวงกลาโหม เสียอีก รัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุด

 

 

 

ได้ระบุไว้แล้วว่าการทำรัฐประหารเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ก็เป็นกบฏ แต่ในความเป็นจริงควรเป็นเรื่องให้ทุกฝ่ายเห็นว่าอะไรคือหนทางในการระงับยับยั้งการทำรัฐประหาร เช่น การสร้างวัฒนธรรมการยอมรับประชาธิปไตยให้พัฒนาต่อเนื่องเหมือนกับต่างประเทศ ซึ่งตนมองว่าประชาธิปไตยไทยพัฒนามาพอสมควร แต่ต้องให้เวลา ต้องมีกระบวนการที่พัฒนาต่อเนื่องเป็นสิ่งที่ตนอยากเห็น อยากเรียกร้องให้ทุกส่วนใช้กระบวนการทางประชาธิปไตย เพื่อแก้ไขปัญหาที่มีข้อขัดข้อง แต่เชื่อว่าแต่เชื่อว่าบรรยากาศที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ทุกฝ่ายพูดคุยกันได้หมดก็ไม่มีปัญหาใด รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่เรื่องที่ตัดสินใจแล้ว หรือมีความขัดแย้งจนเป็นเรื่องเป็นราว ปัญหายังไม่เกิดเพียงแต่มีความเห็นที่ไม่ตรงกัน ที่ค้างคาและเป็นเรื่องที่ค้างคา ในสังคมมานานแล้ว ก็ให้เขาไปดำเนินการแก้ไขให้เหมาะสมดีกว่า

 

 

ส่วนประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ยกโมเดลเกาหลีใต้ ให้เพิ่มบทลงโทษลงไปในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายภูมิธรรม ระบุว่า ขอไม่ก้าวล่วงความเห็นของประธานสภาผู้แทน ซึ่งปัจจุบันมีความเห็นมากมายเพื่อแก้ไขปัญหานี้ เราก็รู้ดีว่าปัญหานี้ดำรงอยู่ในระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องไปดูสาเหตุด้วย ไม่ใช่เพียงแค่เสนออย่างหนึ่งขึ้นมาแล้วจะแก้ปัญหาได้หมดสิ้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกัน เรื่องไหนไม่เหมาะสม ผิดหลักการ ก็ต้องแก้ไข รอให้มีพัฒนาการจนมีความเห็นที่สอดคล้องกัน

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube