“ธรรมนัส” ปัดไม่รู้ค่าหัว 30 ล้านบาท เก็บ สจ.โต้ง เชื่อตำรวจสางคดีได้ มีหลักฐานหมดแล้ว ขณะเตือนรีสอร์ทแอบอ้างชื่อ อย่าทำอีก
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสว่า ก่อนนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง จะถูกยิงเสียชีวิต มีใบสั่งตายค่าหัว 30 ล้านบาท ว่าส่วนตัวได้ยินพร้อมกับสื่อมวลชน ไม่มีการทราบเรื่องนี้มาก่อน แต่เชื่อว่าพนักงานสอบสวนทั้งในปราจีนบุรี และกองปราบ น่าจะทราบประเด็นทั้งหมดแล้ว พูดอะไรมากไม่ได้ จะเสียรูปคดี
ซึ่งตนเป็นคนในวงการมวย ดังนั้น พี่น้องในวงการมวย ไม่ว่าจะเป็น สส.ต้อย แปดริ้ว สจ.เปี๊ยกง อุทัยธานี และ สจ. โต้ง ปราจีนบุรี ก็จะมีการพบกันที่สนามมวยบ่อยๆ เพราะตนก็มีค่ายมวย สังกัด ส.ธธรรมนัส ขึ้นชกอยู่บ่อยครั้ง ก็จะพบเจอกันและสนิทสนมกันมานานเช่นเดียวกับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุ สจ.โต้งและภรรยามาพบตนบ่อย ในเรื่องประเด็นการเมืองท้องถิ่น แต่ตนก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ทั้งนี้ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ในการพบกันก็มีการพูดคุยทั้งเรื่องวงการมวยที่อยากจะมาใช้สีเสื้อของสังกัดตน รวมถึงเรื่องการเมือง แต่ตนเป็นคนให้เกียรติคนมาโดยตลอดจึงบอกว่าให้ไปคุยกับนายสุนทร วิลาวัลย์ ที่เรียบร้อยถ้าจะลงสมัคร
ส่วนกรณีที่ สจ.จอย ภรรยา สจ.โต้ง ประกาศจะลงสมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี ในสังกัดพรรคเพื่อไทยนั้น ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า สจ.จอย สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยตั้งแต่เกิดเหตุและมีโอกาสได้เจอกับผู้บริหารพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะลงสมัครชิงนายก อบจ. ในสังกัดเพื่อไทยเรียบร้อยแล้ว แต่หลังเกิดเหตุเกิดความไม่มั่นใจ จึงได้เข้ามาหารือกับตนเอง ทำให้มีกำลังใจหลังจากเจอกันที่จังหวัดปราจีนบุรีก็ยืนยันว่าจะลง สมัครต่อไป ซึ่งตนเอง นายสุชาติ ชมกลิ่น และนายชาดา ก็รับปากว่าจะช่วย ซึ่งมีการพูดคุยกันอย่างชัดเจนแล้ว ซึ่งตนเองก็ได้บอกกับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ แล้วว่า เราควรสนับสนุนเขา เรามีอุดมการณ์ชัดเจน ใครที่ดีทำให้บ้านเมืองเจริญเราก็สนับสนุน แต่สิ่งสำคัญได้รับปากโต้งก่อนตายแล้วว่า จะช่วยก็ต้องช่วยส่วนความปลอดภัยของสจ.จอย จะดูแลอย่างไร ร้อยเอกธรรมนัส เปิดเผยว่า ทาง สจ.จอย ได้ขอกำลังตำรวจมาคุ้มกัน
ขณะเดียวกัน ร้อยเอกธรรมนัส เปิดเผยถึงกรณีรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ไล่ลูกค้าที่มาเข้าพัก โดยอ้างชื่อ ร.อ.ธรรมนัสเป็นผู้ดูแลรีสอร์ทที่นี่ โดยเมื่อได้ยินคำถาม ร.อ.ธรรมนัส ถึงกับหัวเราะ และกล่าวว่า “เดี๋ยวนี้ตกต่ำถึงขั้นไปคุมรีสอร์ทแล้ว” จึงได้มีการโทรศัพท์ไปเคลียร์กับทางรีสอร์ทเอง และเตือนว่าอย่าทำแบบนี้อีก พร้อมยอมรับภาพลักษณ์ในอดีตมันลบล้างไม่ได้ แต่ทุกวันนี้ ตนเลือกที่จะทำความดี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews