“กัณวีร์” มอง กระทรวงการต่างประทศ มาเกือบถูกทางแล้ว ประชุมร่วม 6 ประเทศ แต่ต้องระวังตกกับดักหลุมพรางให้ทหารเมียนมาฟอกตัว ย้ำ อย่าทำการทูตหลงทาง
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศริเริ่มประชุมหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนระดับสูง 6 ประเทศ ทั้งไทย, เมียนมา, สปป.ลาว, จีน, อินเดีย และบังคลาเทศ เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นข้อห่วงกังวลร่วมกันโดยเฉพาะเรื่องเมียนมา
ซึ่งการหารืออย่างไม่เป็นทางการที่เป็นการริเริ่มสร้างสรรค์ของไทยเมื่อวานนี้ ถือว่ามาเกือบจะถูกทาง แต่ก็คงยังหลงอยู่ดี ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลทำคล้ายๆ กับสิ่งที่ตนเสนอตั้งแต่แรกตอนเข้ามาในสภาผู้แทนเมื่อกลางปี 2566 ที่เคยเสนอเรื่อง Inter-Parliamentarian for Myanmar Peace Corridor (IPMPC) แตกต่างกันตรงที่เสนอเป็นความร่วมมือระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ
กับฝ่ายบริหารที่ฝ่ายรัฐบาลได้ทำ แต่ยังหลงทางอย่างสูง ถามว่า ผิดทางหรือไม่ คงไม่ผิด แต่หลงทางแน่ๆ เพราะมีเรื่องหนึ่งที่ขอย้ำให้คนที่อยากทำเรื่องสันติภาพในเมียนมาว่า ต้องมีความเข้าใจบริบทประทศเพื่อนบ้านทั้ง 5 ของเมียนมากับการสร้างสันติภาพในเมียนมาด้วย การสร้างสันติภาพต้องมาจาก “ภายใน” หรือ “Within” ที่จะเป็นการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน
นายกัณวีร์ กล่าวว่าบริบทของประเทศเมียนมากับชายแดนของตัวเองนั้น เน้นได้เรื่องเดียวแต่หลายกิจกรรม นั่นก็คือ การดำเนินงานนโยบายปิดล้อม (Containment Policy) เพราะต้องเข้าใจถึงสิ่งที่อยู่ในหัวของทหารเมียนมาที่ให้ความสำคัญมากกับชายแดนของตน ที่มีอาณาเขตติดมหาอำนาจถึง 2 ประเทศอย่างจีนและอินเดีย
และติดกับไทยที่มีชายแดนยาวที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ พร้อมมองว่า ต้องประเมินให้ออกว่าเมียนมาเพลี่ยงพล้ำให้กับกองกำลังกลุ่มต่อต้านต่างๆ รอบชายแดนของตนมากกว่า 70% และการเปิดประตูครั้งนี้ให้คุยกับประเทศเพื่อนบ้านโดยง่าย เพราะคงต้องพึ่งประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 5 ในการมอนิเตอร์สถานการณ์ ติดตามความเคลื่อนไหวของกองกำลังกลุ่มต่อต้านต่างๆ และใช้ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมดเพื่อบริหารจัดการกับกองกำลังกลุ่มต่อต้านรอบประเทศนั่นเอง เรื่องนี้จึงต้องมองลึกๆ
ทั้งนี้ ทั่วโลกร่วมประณามและปฏิเสธความชอบธรรมที่ทหารเมียนมาพยายามยัดเยียดให้ประเทศโดยหาพวกต่างชาติมาร่วมรับรอง อย่าอ่อนหัดทางประชาธิปไตยไปยอมรับเขา มันคือการทูตหลงทาง เพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนคิดริเริ่ม จำกันได้มั้ยว่ามีคนในฝั่งรัฐบาลพยายามให้กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รับรองให้เป็นตัวแทนเพื่อไปพูดคุยกับทหารเมียนมา แต่ทุกกลุ่มก็ปฏิเสธ ตอนนี้เลยไปตกกับดักหลุมพรางแทน
ดังนั้น วันนี้จะใช้กรอบอาเซียนพูดคุยกัน ลองกลับไปดูหลักการสำคัญ non-interference หลักการไม่แทรกแซงซึ่งเป็นหลักสำคัญของกฏบัตรอาเซียน ที่มันทำให้อาเซียนทำอะไรได้ไม่มาก ไปเปลี่ยนมันเสียก่อนครับ แล้วค่อยคิดเรื่องการใช้กลไกนี้ในเรื่องสถานการณ์ของภูมิภาค อ่านเกมส์ในภูมิภาคให้ขาด เข้าใจกลไกที่มีอยู่อย่างชาญฉลาด และใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่ทันต่อสถานการณ์/เหตุการณ์ในศตวรรษที่ 21 อย่างเข้าใจที่ถ่องแท้ มันจะทำให้ประเทศเราดูดีมีบทบาทการเป็นผู้นำอย่างสมาร์ทและมีเกียรติ สมควรเป็นที่ยอมรับต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews