Home
|
ข่าว

“ภูมิธรรม” จวกพวกปั่นจุดไฟสงครามไทย-ว้า

Featured Image

 

 

 

“ภูมิธรรม”จวกพวกปั่นกระแสจุดไฟสงครามไทย-ว้า คำนึงผลกระทบ เชื่อ ปัญหาเขตแดนทางบก -Mou44 การเจรจา คือทางออก ไม่หวั่น “สนธิ” บุกทำเนียบยกระดับชุมนุม ลั่นไม่มีอะไรต้องชี้แจง

 

 

 

 

 

นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาพื้นที่พิพาทชายแดนไทยเมียนมา ซึ่งอยู่ในกลุ่มอิทธิพลของกลุ่มว้า ว่า วันนี้มีการพูดคุยในที่ประชุมสภากลาโหม และได้เห็นเอกสารทั้งหมดโดยเฉพาะ เรื่องเขตแดน ทั้งพื้นที่หนองหลวง และพื้นที่ดอยหัวม้า ที่มีปัญหาดังนั้นการแก้ไขปัญหา เรายืนยันตามหลักการไม่ยอมให้อธิปไตยโดนรุกล้ำ และจะรักษาเอาไว้อย่างเด็ดขาด

 

ซึ่งทางฝ่ายทหารได้ให้ความมั่นใจเรามีกำลังพลที่พร้อม ในการรักษาอธิปไตยและการผลักดันออกไป ขณะนี้โลกเผชิญภัยคุกคามกันทั่วโลก เราหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง และพยายามแก้ปัญหาด้วยการเจรจา กรณีว้าก็เช่นเดียวกัน ซึ่งมีอีกหลายเรื่องที่พูดไม่ได้ และไม่มีประโยชน์อะไรที่กลุ่มว้า จะมารุกรานเรา ที่ผ่านมาก็ไม่มีการกระทบกระทั่ง หรือรุกรานไม่เคยเกิดขึ้น ความรุนแรงเกิดขึ้น

 

ประเด็นดังกล่าวมีความทับซ้อนไม่เฉพาะเรื่องเขตแดนอย่างเดียว มันยังเกี่ยวพันไปถึงเรื่องเมียนมาด้วย ตนให้ความมั่นใจได้ว่าไม่มีอะไรที่มีปัญหา เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันเหมือนกับเรื่อง MoU 2544 ซึ่งถือเป็นการอ้างสิทธิ์และเป็นการคุ้มครองเขต ถือหลักฐานแผนที่คนละแบบ ดังนั้นการเจรจาเขตแดนต้องปรับให้ได้ว่า อะไรเป็นมาตรฐานกลาง แล้วก็ดำเนินการไปตามนั้น แล้วทุกคนก็รู้ว่าหากเกิดสงคราม

 

อย่างที่บางคนรู้สึกว่ากระทรวงกลาโหมอ่อนแอเกินไป ตนอยากจะเรียนว่าเราแข็งแรง พร้อมที่จะปกป้องอธิปไตย เพียงแต่ไม่ใช่ทางเลือกแรกที่เราจะทำ หากเกิดสงคราม เรื่องง่ายๆที่ผ่านมาเราจะต้องใช้เวลาเป็นปี กว่าจะเจรจาตกลงได้ หากเกิดสงครามก็จะเกิดการกระทบต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ สงครามไม่เคยปราณีใคร หากไปถามประชาชน

 

เขาก็ไม่อยากให้เกิดสงคราม เพราะคนที่รับผลกระทบมากที่สุดก็คือประชาชน ที่อยู่ตามแนวชายแดน ไม่ใช่พวกที่เรียกร้อง
ที่อยู่ที่นี้ ทุกวันนี้ทุกคนเรียกร้องความอดทนอดกลั้น ในการแก้ไขปัญหา และยึดหลักกฏหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นกฎหมายสากล ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเจรจา ในทุกรูปแบบ

 

ดังนั้นจึงให้ความมั่นใจได้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเขตแดน ไทยเมียนมา 4 ลูกเรือประมงไทย หรือ เอ็มโอยู 2544 เป็นเรื่องที่ต้องเจรจาและหาประโยชน์ให้กับประเทศสูงสุด

 

เมื่อถามว่าจะมีการปรับท่าทีกับประเทศเมียนมาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตามข้อเท็จจริงก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับประเทศเมียนมา ที่จะให้ทั้งสองประเทศมาปรับกัน เพียงแต่ให้ทั้งสองประเทศมาเจรจาหาทางออก แต่ที่ปั่นกระแสกันขึ้นมาตนคิดว่าทุกส่วน ต้องพิจารณา บางทีไม่รู้แล้วพูดจนเกินเลยไป บีบให้รัฐบาลต้องตอบในทางใดทางหนึ่ง รัฐบาลรู้ข้อมูลทั้งหมด แต่หลายเรื่องไม่เป็นผลดีต่อการพูด อยากให้เข้าใจกัน ซึ่งขณะนี้ก็รู้กันอยู่แล้วว่าต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ ก็อยู่ในกระบวนการหาทางออกและแก้ปัญหา

 

เมื่อถามว่าปัญหากลุ่มว้าเราต้องคุยกับหลายฝ่ายใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า คุยกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องและทุกระดับ ซึ่งเป็นไปในแนวทางที่ดี ที่ดำเนินการมาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ที่บอกว่ารบกันแล้วฆ่ากันแล้วไม่จริงทั้งนั้น ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ต้องถามประชาชนในพื้นที่ ก็จะรู้ว่าเขาไม่อยากมีสงคราม แต่แน่นอนว่ากองทัพ ก็ต้องยืนยันในการรักษาพื้นที่ ตอนนี้ก็มีการพูดคุยกัน จุดไหนที่ล่วงล้ำในพื้นที่ที่คิดว่าเป็นของเราก็ผลักดันหรือเจรจา ถือเป็นการหาทางออกที่ดีที่สุด เพราะการดำรงอยู่ของแต่ละฝ่ายในพื้นที่ก็ต้องพึ่งพากัน

 

เมื่อถามว่าในวันพรุ่งนี้นายสนธิ ลิ้มทองกุล จะเดินทางไปที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อทวงถามคำตอบกับรัฐบาลในการยกเลิกเอ็มโอยู 2544 นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิ์ของนายสนธิ สิ่งที่ทำทั้งหมดมีความพร้อมอยู่แล้วไม่จำเป็นจะต้องไปลงรายละเอียดในเรื่องเหล่านี้

 

ส่วนการจัดตั้งคณะกรรมการเทคนิคร่วม JTC ฝ่ายไทย ถือเป็นดำริของนายกรัฐมนตรี ที่อยากให้ตนเป็นประธาน แต่ยังไม่มีการประชุมและนำเข้า ครม. ซึ่งมองว่าหากยังไม่พร้อมและยังต้องพูดคุยกัน ก็ให้เลื่อนการแต่งตั้งออกไปก่อน ซึ่งความเป็นจริงก็ควรที่จะตั้งได้แล้ว เพราะไม่มีอะไร เพียงแต่เป็นสิ่งเดิมที่เคยปฏิบัติมาและเอามาเปลี่ยนใหม่และปรับปรุงตนยืนยันว่าไม่ห่วงหากนายสนธิ จะยกระดับการชุมนุม

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube