Home
|
อาชญากรรม

“ทวี” หารือทวิภาคี ไทย-ลาว หาแนวทางสกัดกั้นยาเสพติดแนวชายแดน

Featured Image

 

 

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะหารือทวิภาคีไทย-ลาว กำหนดยุทธศาสตร์และมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตลอดแนวชายแดนไทย-ลาว

 

 

 

วันที่ 25 ธันวาคม 2567 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียงจันทน์ พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป.ป.ส. เข้าร่วมการประชุมทวิภาคีไทย-ลาว เรื่อง ความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 20 (ระดับรัฐมนตรี) ณ โรงแรมลาวพลาซ่า นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว

จากนั้น พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เป็นประธานร่วมกับ พลโทคำกิ่ง ผุยหล้ามะนีวง รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในการประชุมทวิภาคีไทย-ลาว เรื่อง ความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 20 (ระดับรัฐมนตรี) โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แสดงความขอบคุณรัฐบาลลาวที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ และมีความร่วมมือที่ดีกับไทยมาโดยตลอด

 

จากนั้น ที่ประชุมได้ร่วมกันอภิปรายและรับรองผลการประชุมฯ (ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส) โดยได้ตกลงที่จะร่วมมือกันในหลายด้าน อาทิ ยกระดับการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามชายแดนไทย-ลาว , ส่งเสริมให้มีการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าแขวงชายแดนไทย-ลาว เพื่อติดตามความคืบหน้าในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ,

 

ส่งเสริมปฏิบัติการร่วมระหว่างกำลังป้องกันชายแดนของไทยและลาวในการตั้งด่านตรวจสกัดกั้นยาเสพติดตามลำแม่น้ำโขง (5) จัดให้มีปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ร่วมกันระหว่าง ไทย ลาว และเมียนมา ในพื้นที่เสี่ยงของแต่ละประเทศ , ร่วมมือกันติดตาม จับกุม และส่งตัวผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับของทั้งสองประเทศ

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แสดงความเห็นและให้ข้อเสนอแนะ ดังนี้ (1) ควรพัฒนาศักยภาพแล็ปเพื่อระบุและตรวจจับสารเคมีตั้งต้นได้อย่างแม่นยำ (2) ควรยกระดับการติดตามและจับกุมนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยเฉพาะผู้ผลิต ซึ่งอาจจะจัดทำหมายจับ Most Wanted ขึ้น

 

(3) ควรมีการแลกเปลี่ยนผู้ต้องขัง เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ต้องขังสัญชาติลาวที่อยู่ในประเทศไทย จำนวน 1,096 คน และส่วนมากเป็นคดียาเสพติดจึงควรประสานงานการโอนตัวนักโทษ เพื่อรับนักโทษลาวกับประเทศ และโอนตัวนักโทษไทยในลาวกลับมายังประเทศไทยด้วย (4) ควรพัฒนาระบบการป้องกันโดยเฉพาะด้านความต้องการเสพ (Demand) ของเยาวชนทั้ง 2 ประเทศ (5) ควรพิจารณาสกัดกั้นเส้นทางการเงินเพื่อติดตามจับกุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube