Home
|
อาชญากรรม

ไฟป่ารุนแรงในแคลิฟอร์เนีย เปลวเพลิงแห่งการทำลายล้างที่ยังควบคุมไม่ได้

Featured Image

          7 ม.ค. ตะวันลับขอบฟ้าในค่ำคืนที่เงียบงัน เปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำในรัฐแคลิฟอร์เนียกลับยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น บรรยากาศเปลี่ยนจากความสงบเป็นความตื่นตระหนกของผู้คนในพื้นที่ เสียงลมกรรโชกดังแทรกความเงียบ กลิ่นควันไฟเข้าปกคลุมทั่วบริเวณ ผู้คนหลายแสนต้องละทิ้งบ้านที่เคยอยู่เพื่อหนีจากเปลวเพลิงที่ลุกลามราวกับสัตว์ป่าที่หนีจากความตาย

          เพียงช่วงเวลาไม่กี่วัน ไฟป่าได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 5 ราย บ้านเรือนมากกว่า 10,000 หลังต้องว่างเปล่า เศษซากแห่งชีวิตเหลือเพียงเถ้าถ่านที่ล่องลอยในสายลม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 1,400 นายร่วมกันต่อสู้กับเปลวเพลิงท่ามกลางอุปสรรคหนักหนา ทั้งกระแสลมที่พัดด้วยความเร็วสูงถึง 100 ไมล์ต่อชั่วโมง ความแห้งแล้งในพื้นที่ และการขาดแคลนน้ำประหนึ่งว่ากำลังอยู่ในทะเลทราย

เปลวเพลิงที่ไม่อาจควบคุม
          ฮอลลีวูดฮิลล์ พื้นที่ที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราและความสำเร็จ กลับต้องเผชิญกับไฟป่าที่ไม่อาจควบคุมได้ เดวิด อาคูนา หัวหน้าเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า การควบคุมสถานการณ์ไฟไหม้ตอนนี้อยู่ในระดับ “ศูนย์” ลมแรงที่พัดตลอดทั้งวัน ด้วยความเร็วราว 60-100 ไมล์ต่อชั่วโมง ทำให้ไฟลุกลามรวดเร็วจนไม่อาจหยุดมันได้ 

          เจ้าหน้าที่กว่า 1,400 ชีวิต กำลังยืนหยัดต่อสู้กับมหันตภัยครั้งนี้ ท่ามกลางความแห้งแล้งในพื้นที่ และการขาดแคลนน้ำเพื่อนำมาช่วยดับเพลิง แม้จะมีคำสั่งอพยพประชาชนกว่า 3.2 แสนคนออกจากพื้นที่แล้ว แต่ความเสียหายยังคงขยายวงกว้าง

เพลิงโหมกระหน่ำทั่วทุกพื้นที่

          จนถึงขณะนี้ ไฟป่าที่โหมกระหน่ำในรัฐแคลิฟอร์เนียได้สร้างภาพที่น่าสะพรึงกลัวให้กับผู้คนที่ได้พบเห็น เปลวเพลิงสีส้มแดงลุกลามไปทั่วผืนป่าและพื้นที่ชุมชน มีอย่างน้อย 7 จุดที่เกิดไฟป่าขึ้น และในจำนวนนี้ 5 จุดยังคงควบคุมไม่ได้ 

ไฟป่าพาลิเซดส์ : เพลิงปะทุขึ้นครั้งแรกในเช้าวันอังคาร เวลา 10.30 น. (เวลาท้องถิ่น) เริ่มจากพื้นที่เล็กเพียง 50 ไร่ แต่ด้วยกระแสลมที่รุนแรง ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วจนกินพื้นที่กว่า 500 ไร่ภายใน 20 นาที 

ต่อมาในช่วงค่ำคืนในวันพุธ ไฟป่าได้เผาผลาญพื้นที่มากถึง 40,480 ไร่ ผู้คนกว่า 30,000 คนต้องละทิ้งบ้านเรือนของตนเพื่อหนีตาย

ไฟป่าอีตัน : เมืองที่ตั้งอยู่บนเนินเขาของแพซาดีนา เวลา 18.30 น. เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ในช่วง 6 ชั่วโมงแรก ไฟครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,530 ไร่ และขยายตัวเป็น 25,300 ไร่ ในย่านนี้มีรายงานผู้เสียชีวิต 5 ราย ท่ามกลางเปลวไฟที่ไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง

ไฟป่าเฮิร์สต์ : ในเมืองซาน เฟอร์นันโด ทางตอนเหนือของนครลอสแอนเจลิส เพลิงเกิดขึ้นในคืนวันอังคาร เวลา 22.10 น. ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,150 ไร่ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชนในบริเวณใกล้เคียงเมืองซานตา คลาริตา ท่ามกลางความโกลาหลและควันไฟที่แผ่กระจาย

ไฟป่าวูดลีย์ : สวนสาธารณะวูดลีย์เปลวไฟเริ่มปะทุขึ้นในเวลา 06.15 น. ของวันพุธที่ผ่านมา โชคดีที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงนครลอสแอนเจลิสสามารถควบคุมเพลิงได้สำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้นเหตุการณ์ดังกล่าวยังคงสร้างความเสียหายและร่องรอยของการทำลายล้างของเพลิงไฟยังคงอยู่

ไฟป่าโอลิวาส : พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครลอสแอนเจลิสในเขตเวนทูรา ต้องเผชิญกับไฟป่าที่ลุกลามไปถึง 27 ไร่ แม้ว่าจะสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ชาวบ้านยังคงเฝ้าระวังความเป็นไปได้ของการปะทุขึ้นอีกครั้ง

ไฟป่าลิเดีย : บนภูเขาแอคตัน ทางตอนเหนือของนครลอสแอนเจลิส เพลิงปะทุในช่วงบ่ายวันพุธ เวลา 14.00 น. เปลวไฟลุกลามไปถึง 885 ไร่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ประมาณ 40% แต่ยังคงทำงานหนักเพื่อป้องกันการขยายตัวของเปลวไฟ

ไฟป่าซันเซ็ต : เพลิงที่เริ่มขึ้นในพื้นที่ฮอลลีวูดฮิลล์ เวลา 18.00 น. จุดที่เปลวไฟสามารถมองเห็นได้จากย่านสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง Dolby Theater และ Hollywood Walk of Fame เพลิงไฟเผาไหม้พื้นที่ไปแล้วราวๆ 126 ไร่ ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบ และการอพยพยังคงดำเนินต่อไปอย่างเร่งด่วน

ต้นเหตุของความรุนแรง

ผลการวิจัยชี้ว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดไฟป่าครั้งใหญ่ในแคลิฟอร์เนียนี้ หลักๆแล้วมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

          กระแสลมที่พัดแรงและความแห้งแล้งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดไฟป่ากลางฤดูหนาวที่กำลังลุกลามในทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศน่าจะมีบทบาทสำคัญ

           อย่างไรก็ตาม การวิจัยของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังดูคลุมเคลือในแง่การเชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับไฟป่าที่มีขนาดใหญ่กว่าและรุนแรงกว่าในภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา

          “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้น ความแห้งแล้งที่ยืดเยื้อ และการสูญเสียน้ำในชั้นบรรยากาศ เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการเพิ่มความเสี่ยงและพื้นที่เกิดไฟป่าทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา” องค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ ระบุ

           และหลังจากฤดูร้อนที่อบอุ่นมากและไม่มีฝนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ยิ่งทำให้แคลิฟอร์เนียมีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษ

          สภาพอากาศที่แห้ง ประกอบกับลมซานตาอานาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ อาจทำให้เกิดไฟลุกลามอย่างรวดเร็วและเป็นอันตรายตามที่เราเห็นในนครลอสแอนเจลิสและเขตเวนทูราเคาน์ตีที่อยู่ใกล้เคียง

          โดยทั่วไปแล้ว ฤดูไฟป่าในแคลิฟอร์เนียตอนใต้จะขยายออกไปในช่วงตั้งแต่เดือน พ.ค. ถึง ต.ค. แต่ตามที่ เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะนี้ปัญหาไฟไหม้เป็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นตลอดไป “ไม่มีฤดูไฟป่าอีกต่อไป แต่เป็นปีแห่งไฟ” เขากล่าว

ความสูญเสียที่ไม่อาจประเมินค่า

          จากการคาดการณ์ของ AccuWeather ความเสียหายทางเศรษฐกิจอาจพุ่งสูงถึง 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 1.97 ล้านล้านบาท และมองว่า ความเสียหายดังกล่าวอาจจะเพิ่มสูงขึ้นกว่านั้นด้วย ซึ่งรวมถึงความสูญเสียทางธุรกิจ การตกงาน และปัญหาสุขภาพระยะยาว ควันไฟที่แผ่กระจายยังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คนอีกนับไม่ถ้วน

          “ในอีกหลายวันข้างหน้า คาดว่าจะมีสิ่งก่อสร้างที่ได้รับความเสียหายเพิ่มเติมจากเหตุไฟป่า และอาจจะทำให้ไฟป่าครั้งนี้เป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของแคลิฟอร์เนีย ในแง่ของจำนวนสิ่งปลูกสร้างที่พังเสียหายและความสูญเสียทางเศรษฐกิจ” โจนาธาน พอร์เตอร์ หัวหน้าฝ่ายอุตุนิยมวิทยาของแอคคิวเวเธอร์ กล่าว

          จนถึงตอนนี้ เปลวเพลิงได้พรากชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 5 ราย ทิ้งร่องรอยแห่งความสูญเสียและเศษซากแห่งความหวังไว้ตรงหน้า อาคารบ้านเรือนที่เคยมีชีวิตชีวา กลายเป็นเพียงกองเถ้าถ่านที่หลงเหลือจากเปลวเพลิงร้อนระอุ ที่สำคัญ ทรัพย์สินมูลค่าสูงที่สุดในสหรัฐฯ ก็ไม่อาจรอดพ้นจากความพินาศครั้งนี้

         นอกจากการสูญเสียทางกายภาพแล้ว ผลกระทบยังแผ่ขยายไปในวงกว้างอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการพยากรณ์อากาศชั้นนำยังคาดการณ์ว่าไฟป่าครั้งนี้อาจก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจที่ลึกซึ้ง ตั้งแต่การหยุดชะงักของธุรกิจต่างๆ การตกงานที่เพิ่มขึ้น ไปจนถึงภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ในระยะยาว

        นอกจากนี้ ควันไฟที่ผู้คนต่างสูดดมเข้าไปยังเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพของประชาชนและระบบนิเวศในพื้นที่โดยรอบอย่างต่อเนื่อง ความเสียหายในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงไฟที่เผาผลาญทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังแผดเผาความฝัน ความหวัง และความเป็นอยู่ของชุมชนในวงกว้างอีกด้วย

        เหตุการณ์ไฟป่าครั้งนี้นับเป็นโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่และสร้างความเจ็บปวดแก่ทุกชีวิตที่ได้รับผลกระทบ เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้สูญเสีย และส่งกำลังใจให้ผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติครั้งใหญ่นี้ หวังว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะคลี่คลายลงในเร็ววัน ขอให้ทุกคนปลอดภัย.

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

 

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube