มัดรวมกลโกงแชร์ลูกโซ่ ปี 67
ปี 2567 ยังคงเป็นปีที่แชร์ลูกโซ่แพร่ระบาดในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนดิจิทัล, การขายสินค้า,หรือแม้แต่ในธุรกิจที่ดูน่าเชื่อถือ กลโกงเหล่านี้ก่อให้เกิดความเสียหายมหาศาลต่อเศรษฐกิจและประชาชน
วันนี้จะพาย้อนรอยแชร์ลูกโซ่ที่เป็นข่าวใหญ่ในปีนี้ พร้อมวิเคราะห์บทเรียนสำคัญที่เราทุกคนควรจดจำเริ่มต้นปีด้วยข่าวที่สะเทือนวงการการเงิน เมื่อเครือข่าย ‘Forex-3D’ ซึ่งเคยเป็นข่าวในอดีตยังคงขยายความเสียหายอย่างต่อเนื่องในปี 2567 ผู้เสียหายเพิ่มขึ้นอีกกว่า 5,000 รายและมูลค่าความเสียหายทะลุ 3,000 ล้านบาท แม้จะมีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแต่ความเสียหายทางจิตใจและการเงินยังคงส่งผลต่อผู้เสียหายจำนวนมาก
กลางปี 2567 คดี Smart Home Future กลายเป็นหัวข้อร้อนแรงในสังคม ด้วยการอ้างลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะ ผู้เสียหายกว่า 8,000 รายถูกล่อลวงด้วยคำมั่นผลตอบแทน 15%ต่อเดือน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 2,500 ล้านบาท ก่อนที่บริษัทจะปิดตัวและผู้กระทำผิดหายตัวไป
คดี EcoLife เป็นอีกหนึ่งกรณีที่ใช้ความตระหนักในเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเครื่องมือหลอกลวงด้วยคำสัญญาว่าลงทุนในโครงการพลังงานสีเขียวจะช่วยโลกและได้ผลตอบแทนสูง ผู้เสียหายกว่า10,000 รายสูญเสียเงินรวมกว่า 4,000 ล้านบาท คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้ประเด็นทางสังคมมาเป็นกลไกหลอกลวงในรูปแบบใหม่
อีกหนึ่งคดีใหญ่ของปี 2567 คือ Gold Plus ออมทองออนไลน์ ที่หลอกลวงประชาชนด้วยการอ้างการออมทองแบบดิจิทัล โดยให้ผลตอบแทนเป็นทองคำหรือเงินสด เหยื่อกว่า 20,000 รายทั่วประเทศสูญเสียเงินรวมกว่า 5,000 ล้านบาท สุดท้ายโครงการนี้ถูกเปิดเผยว่าไม่มีทองคำจริงในยุคที่การเล่นเกมออนไลน์ได้รับความนิยม คดี GenZ Game ใช้แพลตฟอร์มเกมออนไลน์เป็นเครื่องมือหลอกลวง อ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงจากการลงทุนในการพัฒนาเกม ผู้เสียหายกว่า 7,000 รายสูญเสียเงินรวมกว่า 1,800 ล้านบาท
คดีแชร์ลูกโซ่ทั้งหมดในปี 2567 ไม่เพียงสร้างความเสียหายทางการเงิน แต่ยังทำลายความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจและสังคม หลายคนสูญเสียทั้งทรัพย์สินและความไว้วางใจในธุรกิจการลงทุนขณะที่บางรายถึงกับเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิตจากความกดดันและความเครียดทุกคดีในปี 2567 สอนเราว่าการลงทุนที่ดูดีเกินจริงมักมีความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ การตรวจสอบข้อมูล, การระมัดระวังในการตัดสินใจ, และการรู้เท่าทันกลโกง เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันตัวเองและครอบครัว
การแก้ปัญหาแชร์ลูกโซ่ต้องเริ่มจากการให้ความรู้และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนหน่วยงานรัฐต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบธุรกิจ และประชาชนต้องร่วมมือกันในการรายงานกลโกงที่พบเจอแชร์ลูกโซ่ไม่ใช่แค่ปัญหาทางการเงิน แต่เป็นภัยต่อสังคม เราทุกคนสามารถร่วมมือกันเพื่อหยุดวงจร อาชญากรรมนี้และสร้างสังคมที่ปลอดภัย
จากกลโกงในอนาคตด้านตำรวจก็ออกมาเตือนประชาชนให้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการลงทุนที่มีลักษณะดังนี้ คือ การันตีผลตอบแทนสูงเกินจริง เน้นชวนคนอื่นร่วมลงทุนเพื่อรับผลตอบแทน และไม่มีใบอนุญาตหรือเอกสารรับรองจากหน่วยงานรัฐ เช่น กลต. ซึ่งหากพบพฤติกรรมหรือโครงการที่มีลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 191 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (CCIB):โทร. 1599 หรือ 1155 และร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ของตำรวจไซเบอร์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews