Home
|
ข่าว

หอการค้าไทย คาด “ทรัมป์ 2.0” ไม่รุนแรง-เจรจาได้

Featured Image
หอการค้าไทย คาด “ทรัมป์ 2.0” ไม่รุนแรง-เจรจาได้ – หอการค้าไทย หวั่น ครึ่งปี 68 การเมืองร้าว – ขึ้น VAT 8% – หอการค้าไทย ยันรับมือได้ ปมเชื่อม-ทุเรียนจีน

 

 

 

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยอมรับว่า มีความกังวลเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 เพราะเผชิญกับความเสี่ยงทั้งปัจจัยภายในประเทศและภายนอกประเทศ

 

 

นายสนั่น ยอมรับว่า กังวลนโยบายกำแพงภาษีของ “โดนัล ทรัมป์” เนื่องจากไทยอยู่ในกลุ่มประเทศเกินดุลการค้ากับสหรัฐอันดับที่ 14 แต่เชื่อมั่นว่าเอกชนไทยสามารถเจรจาได้เพราะว่าบริษัทที่ส่งออกสินค้าของไทยมีคนสหรัฐเป็นผู้บริหารร่วมอยู่ด้วย จึงมั่นใจว่าไทยจะได้รับการยกเว้น หรือ ไม่ตรึงเครียดมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน

 

 

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศ นายสนั่น กังวลว่า ในช่วงครึ่งปี 2568 รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชะลอลง อีกทั้งรัฐบาลมีแนวโน้มจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7%เป็น 8% รวมถึงความไม่แน่นอนของเสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาล เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุน

 

 

ส่วนครึ่งปีแรก ปี 2568 นั้น ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากสถาณการณ์การส่งออกเป็นช่วงขาขึ้น เพื่อเร่งระบายสินค้าให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะเผชิญความเสี่ยงจากนโยบาย โดนัล ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยตลอดทั้งปี 2568 จะโต 2.4-2.9% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อ อยู่ที่ 0.8-2% โดยตั้งเป้าการส่งออกจะโต 4%

 

 

ส่วนผลกระทบจีนส่งสัญญาณแบนสินค้าไทย นั้น อาทิ ยกเลิกการนำเข้าสินค้าน้ำเชื่อมจากประเทศไทย และสถานการณ์จีนยกเลิกทุเรียนไทยกระทันหัน นายสนั่น ยืนยันว่า จีนไม่ได้ส่งสัญญาณไม่พอใจไทย แต่มาจากสินค้าไทยไม่ได้มาตรฐานตามข้อตกลง โดยเฉพาะเหตุการณ์จีนยกเลิกนำเข้าทุเรียนไทย เพราะว่าตรวจพบสารชื่อว่า เบสิค เยลโล่ 2 ที่ผสมเปลือกทุเรียนให้สีเหลือง ป้องกันแมลง แต่เกินมาตรฐาน ดังนั้น เอกชนไทย และรัฐบาลจะต้องหามาตรการกำกับดูแลสินค้าและเร่งชี้แจงและเคลียร์กับรัฐบาลจีนให้รวดเร็วที่สุด เพื่อเรียกความเชื่อมั่น ย้ำว่า ไทยต้องรักษามาตรฐานคุณภาพสินไทยให้ดี

 

 

ขณะที่มาตรการอีซี่ อีรีรีฟ ที่จะคิกออฟ วันที่ 16 มกราคม 2568 นี้ นายสนั่น เห็นด้วยกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมาตรการดังกล่าวจะช่วยดึงเม็ดเงินในกระเป๋าคนมีตังค์ ให้เร็วที่สุด

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube