ศบค. รายงาน ไทยป่วยโควิด เพิ่ม 1,390 คน สะสมทะลุ 43,742 เสียชีวิตอีก 3 คน มีโรคประจำตัวทั้งหมด รวม 104 ศพ
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เปิดเผยตัวเลขสถานการณ์ประจำวันจันทร์ ที่ 19 เมษายน 2564 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 109 ของโลก พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,390 ราย พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 43,742 ราย รักษาอยู่ 14,851 ราย เสียชีวิตใหม่ 3 ราย รวม 104 ราย
ผู้ป่วยชายไทย อายุ 56 ปี อาชีพพนักงานเสิร์ฟในสถานบันเทิงกรุงเทพมหานคร มีโรคประจำตัว คือ โรคความดันโลหิตสูงเส้นเลือดในสมองตีบ ที่อยู่ขณะป่วยจังหวัดบุรีรัมย์
เมื่อวันที่ 13 เม.ย.64 มีอาการไอนอนรักษาอยู่บ้าน วันที่ 17 เม.ย.64 มีอาการเหนื่อยมากขึ้น หายใจติดขัด ติดต่อรถพยาบาลมารับเข้าโรงพยาบาล ต่อมามีอาการแย่ลง เจ้าหน้าที่ทำการฟื้นคืนชีพไม่ดีขึ้น และผลยืนยันพบเชื้อโควิด-19 วันที่ 18 เมษายนเสียชีวิตในเวลา 00.31น.
เป็นผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 84 ปี มีโรคประจำตัวโรค คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูงหลอดเลือดหัวใจตีบ ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ที่อยู่ขณะป่วย คือ กรุงเทพมหานครมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า คือหลานชายซึ่งทำงานในสถานบันเทิงรัชดา กรุงเทพมหานคร
วันที่ 8 เม.ย.64 มีอาการไข้ ไอ เหนื่อย หอบเอกซเรย์พบปอดอักเสบรุนแรงแพทย์พิจารณาให้ใส่ท่อช่วยหายใจ วันที่ 10 เม.ย.64 ผลยืนยันพบเชื้อโควิด-19 วันที่ 16 เม.ย. ความดันโลหิตตกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
และเป็นผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 61 ปี อาชีพค้าขาย มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไทรอยด์ ที่อยู่ขณะป่วย คือ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 6 เม.ย.64 ผู้ป่วยร่วมรับประทานอาหารกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้าที่สถานบันเทิงในหัวหิน
วันที่ 8 เม.ย.64 ตรวจเชื้อหาโควิด-19 เนื่องจากได้รับแจ้งว่าเพื่อนพบเชื้อโควิด วันที่ 10 เม.ย.64 ผลตรวจยืนยันพบเชื้อ วันที่ 11 เม.ย.64 เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และเมื่อวันที่ 18 เม.ย.64 มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 1,384 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 6 ราย เป็นการค้นหาเชิงรุก/โรงงาน 326 ราย และเข้าระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 1,058 ราย
ทุบสถิติอีก!ศบค.พบไทยติดโควิดเพิ่ม1,767-ตาย2
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news