พรรคเพื่อไทยเสวนาวิกฤตและทางออก โควิดระลอก3 “พิชัย” เสนอแนะ 6 ข้อ ชี้ หากทำไม่ได้ เศรษฐกิจก็จะยังไม่ฟื้น ขณะ “ชลน่าน”ห่วงอัตราแพร่เชื้อพุ่ง
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวในงานเสวนา วิกฤตและทางออก โควิดระลอก 3 ว่า ในภาวะวิกฤตไวรัสโควิดรอบใหม่นี้ จึงอยากเสนอแนวทางออกของประเทศไทย
ประกอบด้วย 1.การเยียวยา 5,000 บาท 3 เดือน เพราะการปิดครั้งนี้จะยืดเยื้อ และนายกรัฐมนตรีต้องออก เพราะหมดสภาพในการบริหารประเทศแล้ว 2.การจัดวัคซีนให้เข้ามาในประเทศโดยเร็ว ถ้าวัคซีนไม่เกิดเศรษฐกิจไม่ฟื้น 3.การช่วยเหลือSME เพื่อรักษาของเก่าไว้ เพราะสร้างสิ่งใหม่ไม่ได้ 4.การแก้รัฐธรรมนูญ เพราะเป็นปัญหาอย่างมาก 5.การสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน 6.การสร้างบรรยากาศที่ดีให้กลับมาให้ได้ ต้องปล่อยนักศึกษา ที่ถูกจับกุมให้ออกมาต่อสู้คดี เพราะนี่จะเป็นภาพลบต่อสายตาโลก ในเรื่องการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก อย่างไรก็ตาม หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำทั้ง 6 ข้อนี้ไม่ได้ เศรษฐกิจก็จะยังไม่พลิกฟื้นแน่นอน
ด้านนายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีอัตตราการแพร่เชื้อ1คนต่อ 2-3 คน หากไม่มีมาตราการอะไรเลย อัตราการติดเชื้อก็จะมีถึง 130,000 กว่าราย ต่อเดือน ดังนั้น ในฐานะพรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมือง จึงเสนอทางออก คือ 1.ทุกคนต้องเป็นหมอดูแลตนเอง ในการปฏิบัติตัวทำอย่างไรไม่ให้เสี่ยง เมื่อเสี่ยงแล้วจะทำอย่างไร นี่คือทางออกที่ดีที่สุด และต้องซื่อสัตย์กับตนเองด้วย เพราะขณะนี้ประเทศไทยจะตรวจเฉพาะกลุ่มเสี่ยง และตรวจเชิงรุก เช่นในพื้นที่ที่มีการระบาด แต่ตอนนี้ตนเชื่อว่าการตรวจเชิงรุกไม่ได้ช่วยให้ประชาชนมั่นใจได้ เพราะขณะนี้ระบาดไปทั่วประเทศแล้วซึ่งบุคลากรที่จะตรวจเชิงรุกไม่เพียงพอ 2.ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือร่วมใจกัน ทั้งที่เป็นมาตราการและไม่เป็นมาตราการ อย่าแบ่งแยกหรือปิดกั้นความคิดเห็น 3.รัฐบาลจะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนคนไทย ว่าจะมีมาตราการที่จะรองรับในการที่จะควบคุมป้องกันการแพร่ระบาด แต่ขณะนี้มาตราการไม่ได้เป็นความหวังให้ประชาชนเลย แถลงการณ์รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ก็ไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นแต่กลับเป็นการทำลายความหวังต่อคนในชาติ
ด้าน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ลงไปในระบบเพียง 6 แสนกว่าล้านบาทเท่านั้น ทั้งที่เม็ดเงินในการเยียวยา ควรลงในระบบ 4 ล้านล้านบาท และเมื่อลงระบบได้ไม่เต็มที่ ก็เหมือนร่างกายคนที่ขาดสารอาหาร เหมือนเดินขาเดียว หลายโครงการของรัฐบาล ก็ไม่ครอบคลุมพอต่อประชาชนที่มีปัญหา ส่วนทางออกที่ดีที่สุด คือ การทำให้ขาอีกข้างหาย นั้นคือ การจัดสรรวัคซีน ให้ประชาชนอย่างเต็มที่ และการฟื้นฟูท่องเที่ยว
ซึ่งเชื้อว่าหากสถานการณ์เป็นแบบนี้ การท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้ปี 2565 จึงต้องหันมาดูเรื่องของการส่งออก แต่ก็ไม่ควรมองที่การส่งออกอย่างเดียว เพราะสิ่งที่จะมาก่อนการส่งออกคือ การจ้างงาน พร้อมชี้ว่ามาตรการของรัฐยังขาด แรงกระตุ้น การเหนี่ยวนำการลงทุน เช่นการสนับสนุน การดึงกำลังซื้อจากกลุ่มคนมีทุน ให้กล้าลงทุน ในสิ้นค้าประเภทคงทน เช่น ในหมวด ยานยนต์ อสังหาริมทรัพย์ และอิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์เป็นต้น
ด้านนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว ที่ยังไม่มีการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในระดับชุมชน ขาดความร่วมมือเพื่อพลักดันการท่องเที่ยวในตลาดกลุ่มใหม่ รวมถึงการดึงคนที่มีศักยภาพ ในการใช้จ่าย เข้ามามากขึ้น ซึ่งทั้งหมดต้องพัฒนาคนควบคู่ไปพร้อมกับการพัฒนาคนให้มีทักษะความพร้อม ในทุกมิติ นำไทยกับไปเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวอีกครั้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news