นายกฯ ห่วง”เพนกวิน” อดข้าวประท้วง ชี้กระบวนการศาลก้าวล่วงไม่ได้ ขอแยกแยะอะไรผิดถูก ดูอยู่วัคซีนเอกชนปัดผูกขาด-รอคุยเยียวยา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร ปฏิเสธกระบวนการในชั้นศาลโดยอ้างว่า เนื่องจากไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจึงไม่สามารถไปต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ จึงไม่ยอมรับ ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไปก้าวล่วงไม่ได้ เป็นเรื่องของอำนาจศาลที่มีเหตุมีผล และเป็นไปตามกฏหมาย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ห่วงเรื่องการอดข้าวประท้วง เพราะเป็นเรื่องที่ตัดสินใจเอง แต่เป็นห่วงในเรื่องของสุขภาพ เพราะอย่างไรก็ตาม เพนกวิน ก็คือคนไทย ที่ต้องดูแลเหมือนกัน แต่ก็ขอให้แยกแยะออกจากกัน ว่าอะไรผิดอะไรถูก ดังนั้นการอดข้าวจะมีผลต่อกระบวนการยุติธรรมก็คงไม่ใช่ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องของศาลกระบวนการยุติธรรม
นายกฯขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ ลัทธิกิโยติน หลังมีพระตัดคอเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีพระสงฆ์ใช้เครื่องกิโยติน ตัดคอตัวเอง อ้างว่าเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและมีการสั่งการให้ดูแลเรื่องของลัทธิกิโยติน และลัทธิอื่นๆ ด้วยหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ หลังมีความเชื่อผิดๆ ออกมาหรือไม่นั้น
โดย นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ในวันนี้มีหลากหลายลัทธิเป็นอำนาจมาก ซึ่งวงการคณะสงฆ์ รวมถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปดูแลในเรื่องนี้ด้วย โดยขอให้ประชาชนอย่าไปหลงเชื่อ ในสิ่งที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าถือว่าเป็นคำสั่งสอนที่พิสูจน์ได้ หลายๆ อย่างก็ไม่อยากให้ไปหลงเชื่อมากนัก แต่เรื่องแบบนี้ก็ห้ามไม่ได้อยู่ดีสิ่งต่างๆเหล่านี้ ถ้าจะเชื่อก็ต้องมีเหตุและผล ซึ่งพฤติกรรมเลียนแบบเหล่านี้ ก็คงไม่มีใครอยากจะทำ
นายกฯ ส่ง”ดอน”ร่วมเวทีอาเซียนซัมมิทที่ อินโดฯปัดตอบสถานการณ์ในเมียนมา ย้ำจุดยืนหนุนให้เกิดความสงบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการประชุมอาเซียนซัมมิทที่ อินโดนีเซีย วันที่ 24 เม.ย. ที่หลายฝ่ายจับตาพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ไหล่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ของเมียนมา จะไปร่วมประชุมด้วยตนเอง ในฐานะผู้นำประเทศ ว่า ได้ตัดสินใจส่งนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปร่วมการประชุมดังกล่าวแทน และทราบว่าหลายประเทศก็ส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปแทนเช่นกัน
ส่วนสถานการณ์ในประเทศเมียนมา นั้น มีความสลับซับซ้อน จึงไม่ตอบตรงนี้ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลพยายามทำหลายช่องทาง โดยทำอย่างไรให้สงบให้ได้โดยเร็วที่สุดในฐานะอาเซียนด้วยกัน
นายกฯขอบคุณประชาชนร่วมมือมาตรการโควิด ย้ำไม่ปิดกั้นเอกชนนำเข้าวัคซีน ปัดจองน้อย ชี้ทุกอย่างเป็นไปตามสถานการณ์ เร่งฉีดเร็วที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าทุกคนคงทราบดีว่าขณะนี้รัฐบาลได้ยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการที่ต้องพิจารณาในช่วง 2 สัปดาห์ที่ เพื่อให้ได้ข้อสรุปเร็วๆ เพราะขณะนี้มีกราฟตัวเลขผู้ติดเชื้อขึ้น-ลง จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่มีจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด และพื้นที่ควบคุมอีก 59 จังหวัด โดยได้ยกระดับมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนจะต้องมีการบูรณาการร่วมกันพร้อมขอขอบคุณประชาชนที่เข้าใจและตอบสนองนโยบายภาครัฐตามาตรการต่างๆ
ส่วนที่มีการโจมตีรัฐบาล ที่ไม่เปิดให้เอกชนนำเข้าวัคซีนโควิด ได้มอบให้กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการโดยตั้งคณะกรรมการฯ ที่มีนายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธานเพื่อหารือกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ในการนำวัคซีนทางเลือกเข้ามา พร้อมขอให้เข้าใจเรื่องวัคซีน ไม่ใช่เพราะเราจองช้าหรือมีจำนวนน้อยเกินไปแต่ทุกอย่างพัฒนาไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ ได้มีการเร่งรัดให้มีการฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุดตามโควตาที่ให้ไป และให้ประชาชนได้มารับวัคซีนให้มากที่สุดและทั่วถึงเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ รัฐบาลเองต้องจัดเตรียมวัคซีนสำรองไว้ด้วย
พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยคิดเรื่องการปิดกั้นเอกชน นำเข้าวัคซีน แต่ต้องยอมรับว่าเราไม่สามารถที่จะไปซื้อเหมือนยาปกติ เพราะเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินบริษัทผู้ผลิตเอกชนไม่รับผิดชอบในกรณีที่เกิดผลกระทบหรือผลข้างเคียง จึงจำเป็นต้องเป็นรัฐเป็นผู้จัดหาในขณะนี้ แต่ต่อไปคาดว่าสถานการณ์นี้จะคลี่คลายไปได้
นายกฯย้ำไม่มีปัญหางบประมาณเยียวยาโควิด ถกทีมเศรษฐกิจบ่ายนี้ พิจารณาโครงการที่มีอยู่-จบไปแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ระลอกใหม่ ว่า ในเรื่องการเยียวยาประชาชน ในช่วงบ่ายจะหารือเพิ่มเติมกับทีมเศรษฐกิจ ว่าจะสามารถใช้งบประมาณต่างๆ ได้มากน้อยเพียงใด และเริ่มโครงการใดบ้าง ซึ่งปัจจุบันยังมีโครงการเราชนะ โครงการ ม.33 เรารักกัน และโครงการอื่นที่จบไปแล้ว จะดำเนินการพิจารณาอีกครั้ง โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า ต้องนึกถึงว่ารัฐบาลมีงบประมาณอยู่แค่ไหน
อย่างไร ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ อย่างไรก็ต้องจัดหาให้จนได้ เพียงแต่ว่าต้องหาด้วยวิธีไหน ว่าจะมีงบประมาณเพียงพอหรือไม่ ในสถานการณ์เช่นนี้
นายกฯย้ำหมอพร้อมเริ่มลงทะเบียน 1 พ.ค. เร่งจัดหายาต้านไวรัส ขอเข้มงวดมาตรการเดิมสวมหน้ากากเว้นระยะห่างล้างมือ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเข้าถึงวัคซีนผ่าน Application หมอพร้อม ว่า
จะเริ่มให้ลงทะเบียนวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 จะต้องมีการเตรียมการมากพอสมควร เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทั่วประเทศโดยเร็ว โดยเริ่มใช้ข้อมูลจากการเข้ารักษาการพยาบาลทั่วประเทศ ก็ได้จำนวนหนึ่ง แต่ที่เหลือก็ต้องหาเพิ่มเติมว่าคนทั้งประเทศ มีความต้องการที่จะฉีดวัคซีนด้วยความสมัครใจเท่าไหร่
ด้านแผนการจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หลายคนเข้าใจว่าขาดแคลน แต่รัฐบาลมีการจัดเตรียมแผนสำรองไว้แล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุขซึ่งยาดังกล่าว ให้เข้าใจตรงกันว่าไม่ใช่ยาที่กินแล้วจะป้องกัน covid วัคซีนก็เป็นวัคซีนที่สร้างภูมิต้านทานในตัวเราให้เข้มแข็งขึ้น และเมื่อภูมิเข้มแข็งขึ้นก็สามารถต้านทานโรคนี้ได้พอสมควร และไม่ไปแพร่เชื้อให้คนอื่น แต่อย่างไรก็ตามจะต้องใช้มาตรการเดิมที่มีอยู่คือการสวมหน้ากากเว้นระยะห่างล้างมือ
โดยบางพื้นที่ มีการกำหนดบทลงโทษ ผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งตนไม่อยากให้ประชาชนต้องเดือดร้อนตรงนี้ แต่บางทีก็จำเป็นเหมือนกันไม่เช่นนั้นประชาชนก็ประมาท ก็ทำให้การแก้ไขปัญหานั้นยากขึ้นเรื่อยๆ ตนโทษใครไม่ได้อยู่แล้ว เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องไม่โทษซึ่งกัน และต้องร่วมมือซึ่งกันและกัน ตนขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้กับตนคณะรัฐมนตรี บุคลากรทางการแพทย์รัฐบาล ตนจะไม่หยุดนิ่งในการคิด ที่จะบริหารจัดการต่างๆ ตนก็รับฟังความคิดเห็นจากกระทรวงสาธารณสุขบุคลากรทางการแพทย์
โดยขณะนี้ในเดือนพฤษภาคมถึงเดือนเมษายนจะมีการจัดหายาดังกล่าวเพิ่มอีก 2 ล้านเม็ด ซึ่งพอเพียงในการใช้เพื่อการรักษาซึ่งจะต้องเป็นการประเมินรายวันและสต๊อกเอาไว้หากสถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นเพราะฉะนั้นจะต้องมีแผนเป็นขั้นเป็นตอน
นายกฯยันนิ่งนอนใจดำเนินคดีแหล่งแพร่ระบาดโควิด เห็นใจแพทย์ป่วยมากขึ้น เร่งหางบฯมาช่วยเหลือประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการติดตามสำนวนคดีเกี่ยวกับเรื่องแหล่งแพร่ระบาดต่างๆ นั้น ว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้กำชัยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดูแลเจ้าหน้าที่ทั้งหมด และลงโทษไปบ้างแล้ว และจะต้องมีการตรวจสอบต่อไป ให้หาถึงเจ้าของที่แท้จริงของสถานบริการต่างๆเหล่านั้น ว่าใครเป็นเจ้าของและจะดำเนินคดีต่อไป ยืนยัน ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องเหล่านี้ แหล่งการแพร่ระบาดได้มีการสอบสวนในทุกกรณีไป
ส่วนกรณีที่มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อจำนวนมากนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องเข้าใจว่าติดมาอย่างไร คงไม่ได้ไปเที่ยวเตร่ที่ไหนมาต้องเห็นใจเขาบุคลากรทางการแพทย์ต่างๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นทหารตำรวจที่ไปดูแลเรื่องการตรวจจุดสกัดดูแลผู้ชุมนุม ที่นี้แหละที่มีการแพร่ระบาด แล้วติดเชื้อมาก็ต้องเห็นใจเขา ต้องดูแลเขา ตนไม่อยากให้สร้างภาระให้กับเขาอีกแต่เรื่องที่ไม่จำเป็น เรื่องที่ต้องใช้คนจำนวนมากลงไปดูแลใกล้ชิดกันอีก ก็จะเป็นการแพร่เชื้อในระยะต่อไป เราต้องรักษาบุคลากรทางการแพทย์ให้ได้มากที่สุดให้ความสำคัญ ดูแลเขา แล้ว รัฐบาลเองก็มีมาตรการดูแลเขาอยู่แล้วในส่วนนี้
ขณะที่ การแก้ไขปัญหาคนตกงาน ขณะนี้ก็มีหลายมาตรการที่ออกมา หลายคนคงไม่ลืม ที่ทำให้รักษางานตั้งนาน เพราะฉะนั้นจะต้องดูแลตรงนี้ต่อไปว่าจะทำอย่างไรกันอีก ไม่ว่าจะเป็น SME จะต้องจัดเตรียมหางบประมาณเพิ่มเติมจากงบประมาณที่มีอยู่เดิม นี่คือวิธีการทำงาน
นายกฯอ้อนพูดเร็วไปนิดพูดถูกบ้างผิดบ้าง พูดไม่ชัดบ้าง ต้องขอโทษด้วย มีหลานเรื่องให้คิด ลั่นจะทำให้ดีที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในช่วงท้ายของการแถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าสิ่งที่ตนพูดออกไปในฐานะรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเอาข้อมูลออกมาจากหน่วยงาน นี่คือทำงานอย่างเป็นระบบ ตนได้เน้นย้ำเรื่องโรงพยาบาลสนามต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ว่าจะต้องเตรียมให้ได้ทุกพื้นที่ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนให้เข้าใจตรงกันว่า หลายคนอยากเข้าโรงพยาบาลรัฐ หรือเอกชนแต่เตียงไม่เพียงพอจึงต้องรักษาเตียงไว้ให้กับผู้ป่วยที่มีอาการหนัก จึงต้องมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ซึ่งมีเตียงว่างอยู่จำนวนมากพอสมควรและพร้อมที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ จึงขอทำความเข้าใจอาจอยู่ไกลบ้านบ้างก็ขอให้เข้าใจ จะไปดึงดันเข้าโรงพยาบาลรัฐเอกชนอย่างเดียวคงไม่ได้และขอบคุณเอกชนที่ให้ความร่วมมือสนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ เราจะต้องข้ามผ่าน covid ไปให้ได้ด้วยความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคน
หลายครั้งที่ตนพูดอาจจะพูดเร็วไปนิด เพราะมีหลายเรื่องที่ให้ต้องคิด ต้องขอโทษด้วย ตนจะพูดให้ช้าๆ บางครั้งพูดถูกบ้างผิดบ้าง พูดไม่ชัดบ้างก็ขอให้เข้าใจด้วยแล้วกัน ตนพยายามเต็มที่ตนเป็นคนค่อนข้างทำอะไรเร็วไปนิดนึง พูดเร็วคิดเร็ว หลายเรื่องอยู่ในสมองค่อนข้างเยอะ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจสุขภาพ การลงทุน งบประมาณ นี่คือหน้าที่ของนายกฯ พร้อมขอทำให้ดีที่สุดด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน อะไรที่ไม่ดีก็ขอโทษ อะไรที่ดีก็ขอให้ร่วมมือนายกฯ ไม่เคยคิดเป็นอื่น คิดทำให้ประเทศไทยในดีขึ้นหลายเรื่องที่รัฐบาลต้องกลับมาแก้ไขปัญหาก็มีมาทุกวัน แต่ตอนยืนยันว่าจะต้องเร่งดำเนินการให้จงได้ขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคน
นายกฯ ยัน หาวัคซีนเพิ่มต่อเนื่อง เจรจาไฟเซอร์ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ได้ ก.ค.5-10 ล้านโดส
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดำเนินการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมว่า รัฐบาลมีการเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันที่ 24 เม.ย.จะได้รับวัคซีนของ ชิโนแวคมาอีก 5 แสนโดส และในเดือน พฤษภาคม ก็จะได้รับของชิโนแวค จากจีนอีก 1 ล้านโดส ส่วนในเดือน มิถุนายน ก็จะได้รับวัคซีนแอสตร้า ซิเนกา ตามที่ทำสัญญาไว้ 4-6 ล้านโดส และจะได้เพิ่มขึ้นในเดือนต่อๆไป จนครบ 61 ล้านโดส
ส่วนเรื่องการเจรจาขอซื้อเพิ่มจากผู้ผลิตรายอื่นๆ นั้น ยืนยันว่า ดำเนินการอยู่หลายเจ้า โดยที่ชัดเจนที่สุดคือ ของไฟเซอร์ ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาด ประมาณ เดือน ก.ค.ถึงสิ้นปี จะได้ประมาณ 5-10 ล้านโดสโดยกำลังรอใบเสนอราคาและเงื่อนไขอยู่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news