ผู้ว่าฯตาก เผย เตรียมเปิด รพ.สนาม แล้ว หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด 43 ราย ผู้เดินทางจาก จว.เสี่ยงต้องกักตัว 14 วัน – นราฯเปิดรพ.สนาม 3แห่งรวม1,100เตียง
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19ระรอก3 ว่า ขณะนี้ผู้ป่วยโควิด43 ราย ได้เข้ารักษาใน โรงพยาบาลสนาม ของจังหวัดแล้ว ซึ่งเชื่อมโยงมาจากสถานบันเทิง ในกทม. เชียงใหม่ และพิษณุโลก พบมากสุดคือกลุ่มนักศึกษาที่เดินทางกลับมาหาครอบครัวในช่วงปิดเทอม และเทศกาลสงกรานต์ ทำให้นำเชื้อมาแพร่กระจายในพื้นที่ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ทางจังหวัดมีการวางแผนเตรียมเปิดโรงพยาบาลสนามที่ อำเภอแม่สอดและอำเภอเมืองกว่า 50 เตียง หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นหรือมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจะดำเนินการขยายพื้นที่บรรจุได้ 200 เตียง โดยจังหวัดตากเป็นภูมิประเทศ 2 ซีก จึงประสานหน่วยงาน มณฑลทหารบกที่ 310 เตรียมสถานที่เปิดโรงพยาบาลสนามบริเวณค่ายวชิรปราการอีก 80 เตียง ขณะเดียวกันยังมีมาตรการคุมเข้มสั่งปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะฯลฯ ตามศบค.กำหนดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เดินทางมาจาก 30 จังหวัดเสี่ยงต้องทำการกักตัว 14 วัน ด้วย คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเนื่องจากจำนวนสถานบันเทิงในจังหวัดตากมีไม่มาก
นราธิวาส เปิดโรงพยาบาลสนามแล้ว 3 แห่ง รวม 1,100 เตียง สธ.จังหวัดมั่นใจรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ได้เพียงพอ
นายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการเปิด โรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19ในพื้นที่ว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้เปิดโรงพยาบาลสนามไปแล้ว 3 แห่ง
โดยแห่งแรก ที่ เรือนจำจังหวัดนราธิวาสรองรับได้ 800 เตียง แห่งที่ 2 ที่ศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติดจังหวัดนราธิวาส รองรับได้ 200 เตียง และแห่งที่3 ณ ศูนย์พักพิงร่วมใจอุ่นไอรัก อ.เมือง รองรับได้100 เตียง รวม 3แห่ง รองรับได้ 1,100 เตียง ซึ่งขณะนี้ผู้ป่วยยังไม่เต็ม แต่เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์
ทั้งนี้ สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ แม้จะพบผู้ติดเชื้ออยู่บ้างจากวงรอบของการแพร่กระจายเชื้อ แต่ในภาพรวมแล้วถือว่าควบคุมอยู่ในวงจำกัดได้แล้ว และคาดว่าโรงพยาบาลสนามทั้ง 3แห่งจะรองรับผู้ป่วยเพียงพออย่างแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
