กาสิโน รัฐบาล “แพทองธาร” วิกฤต หรือ โอกาส
รัฐบาลพรรคเพื่อไทย นำโดย “นายกฯแพทองธาร ชินวัตร” พยายามอย่างเต็มที่ในการผลักดัน ร่าง พรบ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ที่มีสัดส่วนของกาสิโน 10%ของพื้นที่ เข้าสภา ท่ามกลางเสียงทักท้วงคัดค้านอย่างหนักของภาคประชาชนที่เห็นต่าง
พร้อมตั้งคำถาม เร่งรีบนโยบายนี้ผิดปกติไปหรือไม่ มีผลประโยชน์ ทับซ้อนหรือเอื้อต่อกลุ่มทุน กลุ่มไหนหรือไม่ เพราะเรื่องนี้พรรคเพื่อไทยไม่ได้หาเสียงไว้ และไม่ได้ระบุไว้ในนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา แต่ก็ได้คำตอบกลับมาว่า เป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่มุ่งจะหารายได้เข้าประเทศ และจากคำถามของคนเห็นต่าง
รวมถึงคำตอบของบุคคลในระรัฐบาลก็น่าเป็นห่วงว่า การเดินหน้าของสภาผู้แทนราษฏร พิจารณาร่าง พรบ.สถานบันเทิงครบวงจรในวันที่ 9 เม.ย.นี้ จะเป็นโอกาส ในการหาเงินเข้าประเทศ หรือจะกลายเป็นวิกฤตทางการเมืองซ้ำรอยอดีต เหมือนเมื่อครั้ง พรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย “สมัยนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ก็ได้
ซึ่งหากจะอาศัยพวกมากลากไป แบบที่ “หมอชลน่าน ศรีแก้ว” อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พูดในสภาเมื่อวันเสนอเลื่อนวาระเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ถกเถียงกันกว่า 3 ชั่วโมง เมื่อสัปดาห์ก่อนมือของฝ่ายรัฐบาล สามรถผลักดัน ไปต่อได้แน่นอน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในชั้นวุฒิสภา เพราะเริ่มมีส่งสัญญาณมาแล้ว ร่างกฏหมายฉบับนี้ อาจจะเดินตามเส้นทางของ พรบ.ประชามติก่อนหน้านี้ก็เป็นได้เช่นกัน
การเมืองไทย อะไรก็เกิดขึ้นได้ พรรคเพื่อไทย ไม่ได้หาเสียงเรื่อง กาสิโนเอาไว้ ยังมาเดินหน้าผลักดัน เหมือนรับบัญชามาจากใคร แต่พรรคประชาชนที่เคยหาเสียงไว้ เมื่อครั้งเป็น “ก้าวไกล” กลับทำตรงกันข้าม ร่วมคัดค้าน สมกับที่เป็นฝ่ายค้านเต็มตัว ค้านไปเสียทุกเรื่อง แม้เป็นเรื่องที่ตนเองเคยหาเสียงไว้
ต่างจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้นำจิตวัญญาณพลังประชารัฐ คัดค้านเรื่องนี้มานาน แถมเคยอภิปรายในสภา ก็ยังคงยืนยันคำเดิม พร้อมส่งลูกพรรคคัดค้านอย่างเต็มที่ ร่างพรบ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ จะเข้าสู่การพิจารณาของสภา วันที่ 9 เม.ย.นี้ไม่รู้ว่าจะอภิปรายกันดุเดือด ถึงขั้นประธานสภา ต้องลุกขึ้นยืนห้ามทัพ หรือเรียกตำรวจสภาเข้ามาเชิญตัวออกจากห้อมประชุมอีกหรือไม่ เพราะการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใครอะไรก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เกมในสภาจะพลิกผันไปในรูปแบบไหน ก็คงขึ้นอยู่กับจำนวนมวลชนที่อยู่นอกสภาด้วย
คทป.และเครือข่าย ที่ต่อสู้มายาวนานจะระดมพลมามากน้อยเพียงใด แกนนำใหม่ที่จะมาร่วมม็อบอย่าง “จตุพร พรมพันธ์-ทนายนกเขา-หมอวรงค์”และอีกหลายคน จะทำให้การลงถนนจุดติด กลายเป็นม็อบใหญ่ เหมือนในอดีตได้หรือไม่จุดนี้น่าจะเป็นตัวชี้วัดว่า พรบ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่มี “กาสิโน” สอดไส้อยู่ด้วย จะไปต่อหรือพอกันแค่นี้
แต่เบื้องต้นฝ่ายมั่นคง ของทางเพื่อไทย ประเมินแล้วม็อบจุดไม่ติด เพราะเงื่อนไขปลุกระดมมวลชนยังไม่ถึงขั้นสุกงอม แม้เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา จำนวนม็อบจะเพิ่มมากขึ้นเกือบเท่าตัว จากที่เคยปักหลักทำเนียบแล้วก็ตาม ดังนั้นวันที่ 9 เม.ย.นี้ สถานการณ์ จะเป็นอย่างไร รัฐบาลต้องใส่เกียร์ถอยในสภาหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป…
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews