Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“โค้ชหรั่ง-เดอะตุ๊ก” กระตุ้น U17 ต้องชนะซาอุฯ

 

ช้างศึก U17 กับการเดิมพันครั้งใหญ่ พบ ซาอุดีอาระเบีย U17 วันที่ 7เมษายน 2568 ในการแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดที่สอง ซึ่งก่อนหน้านี้ ทีมชาติไทยเริ่มต้นด้วยการพ่ายต่อ อุซเบกิสถาน ไป 1-4

 

 

 

 

ดังนั้น เกมนี้ แข้งไทย U17 ต้องชนะซาอุฯให้ได้เพราะการแข่งขันรายการดังกล่าว จะนำทีมแชมป์กลุ่ม และ รองแชมป์กลุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ต่อไป โดยจะหาตัวแทนจากทวีปเอเชีย 8 ทีม ไปแข่งขันฟุตบอล U17 ชิงแชมป์โลก 2025 ที่ประเทศกาตาร์

 

ทั้งนี้ “ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน” อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงรูปเกมที่ทีมชาติไทย U17 จะลงสนามพบซาอุดีอาระเบีย ว่า ถ้านักเตะสามารถที่จะโชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างเต็มศักยภาพ ก็เชื่อมั่นว่า จะผ่านซาอุฯไปได้

 

“เราอยู่กับสายที่ค่อนข้างจะหนัก และก็อยู่กับเจ้าภาพซาอุฯ และแมตช์แรกก็ต้องบอกว่า เด็กยังเกร็ง แล้วก็ความสามารถที่เคยซ้อมมา อุ่นเครื่องมา แม้ว่าจะเล่นชิงแชมป์อาเซียน เราเล่นดีกว่านี้ เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไร ให้ความมั่นใจ เอาความสามารถที่เรามีอยู่ ออกมาใช้ให้เต็มท็ ถึงแม้ว่าเป็นรองซาอุฯก็ตาม แต่ผมเชื่อว่าถ้า performance ความสามารถเอาออกมาใช้เต็มศักยภาพ เหมือนแมตช์ที่อุ่นเครื่องกับกาต้าร์เราชนะถึง 2-0

 

ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ต่างเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นมันอยู่ด้วย 1 เมนทอลฟิตเนส เรื่องของจิตใจ ขวัญและกำลังใจสำคัญที่สุด ถ้าขวัญกำลังใจมา เรื่องเทคนิคที่มีอยู่ เรื่องแทคติกที่มีอยู่ ที่ซ้อมกันมา อย่างเต็มที่ สมาคมออกโปรแกรมการฝึกซ้อม การเก็บตัวมาค่อนข้างดีมากๆ สำหรับชุดนี้ เพราะฉะนั้นถ้าเมนทอลฟิตเนส สภาพจิตใจ และความเชื่อมั่นออกมา แล้วไม่ต้องเกร็งกับคำว่าเจ้าภาพมากเกินไป ผมก็ว่าสู้ได้”

 

ขณะที่ “เดอะ ตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า สมาคมฟุตบอลฯ ให้ความสำคัญกับทีมชาติไทย U17 มาก มีการเตรียมทีมนาน มีการเก็บตัวที่ดี ได้รับการช่วยเหลือทุกฝ่าย ซึ่งนายกสมาคมฟุตบอล ฝากให้คุยกับโค้ช จเด็จ มีลาภ ถึงสิ่งที่ต้องเสริมใน 2 นัดที่เหลือ เพื่อผลงานดีที่สุด พาทีมไปฟุตบอลโลกให้ได้

 

ทั้งนี้ เกมที่ 2 จะต้องลงสนามพบกับ ซาอุดีอาระเบีย มีหน้าเดียวเท่านั้นคือต้องชนะ หรืออย่างน้อยต้องเสมอ แล้วนัดสุดท้ายต้องไปยิงจีนให้เยอะที่สุดหากหวังจะเข้ารอบต่อไป

 

“ปิยะพงษ์” กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการเล่นในการเจอกับซาอุฯ ก็จะให้ข้อแนะนำว่าไม่ต้องลงไปรับในแดนสอง จุดเด่นของนักเตะชุดนี้คือเรื่องความฟิต วิ่งไม่มีหมด อาจจะให้วิ่งเพรสตั้งแต่ต้นเกมเลย เพราะนักเตะไทยมีศักยภาพ ต้องกดดันจ่ายบอลเร็ว เคลื่อนที่เร็ว ได้ก็เอาไม่ได้ก็กลับมาเริ่มเล่นใหม่ ซึ่งอาจจะใช้พลังเยอะหน่อย แต่จะไม่สามารถมาเล่นตั้งรับแดนสอง แล้วรอสวนกลับ ซึ่งบางทีอาจจะไม่ทัน

 

ส่วนความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย U17 ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 เมษายน เวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ได้ลงฝึกซ้อมครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะพบกับ ซาอุดีอาระเบีย U17 โดยการซ้อมดังกล่าวใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที เน้นไปที่ การเข้าทำ การเล่นเกมรับ

 

ก่อนการฝึกซ้อม “ปรเมศ ละอองดี“ ตัวรุกจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ของทีมชาติไทย U17 กล่าวว่า “ตอนนี้ผมก็พร้อมแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะเล่นได้กี่นาที แต่ผมก็มีความกระหายที่จะช่วยทีมเสมอครับ ผมก็พยายามเรียกความฟิต เล่นฟิตเนส พยายามแยกซ้อมเพื่อให้พร้อมมากที่สุด”

 

“ทั้งนี้ถ้าได้โอกาสก็จะพยายามทำให้เต็มที่ และเอาชนะ เพราะสองนัดที่เหลือเราต้องสามแต้มเท่านั้นเพื่อโอกาสในการเข้ารอบ ตอนนี้ผมพร้อมมาก มีความกระหาย ผมอยากทำให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นว่า ทีมเรายังขาดอะไร ยังต้องการอะไร ผมอยากเอาชนะคำวิจารณ์ ก็จะพยายามแสดงออกมาให้เห็นในเกมนี้”

 

”ปรเมศ“ กล่าวอีกว่า “จากที่ดูเทปการเล่นของ ซาอุดีอาระเบีย มา ปีกด้านข้างของเขาค่อนข้างคล่อง รวดเร็ว และทักษะ 1-1 ทำได้ค่อนข้างดี เราก็ต้องพยายามเปลี่ยนสถานการณ์ให้เร็ว และระวังพวกเขา ฝากแฟนบอลทุกคนให้กำลังใจเราเหมือนเดิม เราพยายามสู้เต็มที่ และจะเก็บชัยชนะให้ได้ครับ”

 

สำหรับ ทีมชาติไทย U17 จะทำการแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดที่สอง ที่จะพบกับ ซาอุดีอาระเบีย ที่ คิง ฟาฮัด สปอร์ตส์ ซิตี้ สเตเดียม ในวันที่ 7 เมษายน 2568 เวลา 00.15 น. ตามเวลาประเทศไทย หรือ คืนวันที่ 6 เมษายน ถ่ายทอดสดทาง T Sports 7และ Facebook, Youtube : ช้างศึก

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube