Home
|
ข่าว

อ่านเกม “ทรัมป์” ขึ้นภาษี

 

 

 

อ่านเกมผู้นำสหรัฐฯ “โดนัลด์ ทรัมป์” กับคำประกาศขึ้นภาษีนำเข้าพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้าทุกประเภทที่นำเข้ามายังสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้หลังเที่ยงคืนวันที่ 5 เม.ย. 2568 และเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้นกับประเทศที่มีความไม่สมมดุลทางการค้ากับสหรัฐฯ ราว 60 ประเทศ มีผลบังคับใช้หลังเที่ยงคืนวันที่ 9 เม.ย.

 

 

 

ทั้งนี้ ประเทศไทย ถูกสหรัฐฯเรียกเก็บภาษี 36% สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ในอาเซียน และถือเป็นมาตรการรุนแรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นักวิเคราะห์ บริษัหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ระบุว่า หากการส่งออกจากไทยไปสหรัฐฯ ลดลงทุกๆ 1% จะส่งผลให้มูลค่าส่งออกไทยลดลงราว 1.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน GDP ไทยราว 0.11%

 

สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง “นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” ถึงการที่ประเทศไทยโดนสหรัฐฯเรียกเก็บภาษีนำเข้า 36% โดย “นายธีระชัย” กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวเหนือความคาดมาก และสูตรที่ทางสหรัฐฯนำมาคำนวนนั้น ก็ไม่ตรงกับความเป็นจริง

 

“อันนี้เหนือความคาดหมาย แล้วก็ไม่ตรงด้วยกับสูตรที่เขาใช้คำนวณที่เขาประกาศ ว่ามันประกอบด้วย 3 ปัจจัย คืออัตราภาษีอากรนำเข้า บวกกับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางอื่นที่ไม่ใช่ภาษีแล้วมาบวกกับบริหารค่าเงิน ไม่ใช่เลย ปรากฏว่ามันเป็นแค่การเอาตัวเลขเกินดุลการค้าหารเป็นเปอร์เซ็นต์กับตัวเลขส่งออก เพราะฉะนั้นขณะนี้มันเป็นอัตราที่ไม่ตรงกับสูตร”

 

อดีตรัฐมนตรีฯคลัง กล่าวอีกว่า เมื่อประเทศไทยถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้น ทางรัฐบาลไทยจะต้องเร่งดำเนินการเจรจากับสหรัฐฯในทันที

 

” เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ทั้งรัฐบาลไทย และรัฐบาลอาเซียนที่จะต้องจับมือกัน แล้วพยายามที่จะพูดคุยกับทางสหรัฐฯว่าตัวเลขแบบนี้มันไม่ตรงกับที่คุณประกาศ
เสร็จแล้วตัวเลขแบบนี้เพราะว่าของไทยอัตราภาษีจริงๆตกประมาณ 11% เท่านั้น ในแง่นี้ต่อให้ทุกประเทศในอาเซียนลดอัตราภาษีลงไปเหลือ 0%

 

ซึ่ง 72% ก็ลดลงไปเหลือแค่61 ซึ่งอันนี้เป็นไปไม่ได้เพราะฉะนั้นการเจรจาก็ต้องเรียกร้องให้ทางสหรัฐ ฯ เค้าเข้าใจว่าตัวเลขของเขาเป็นตัวเลข ที่เอามาใช้ในการเจรจาไม่ได้ความ”

 

และเมื่อถาม “นายธีระชัย” ว่า ตัวแทนฝ่ายไทยในการนำทัพเจรจากับสหรัฐฯ จะต้องเป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ คำตอบที่ได้ น่าสนใจ

 

” ใครเจรจาผมว่าไม่เป็นไร เพียงแต่ว่าขณะนี้ลักษณะของการวางหมากในเรื่องภาษีของทรัมป์ เขาต้องการแสดงพลังว่าเขาประกาศออกไปแล้ว ทุกคนจะต้องวิ่งเข้าหาแล้วก็ยอมเจรจา เพราะฉะนั้นอันดับแรกเลยถึงแม้ว่าไม่ได้ไปเจรจาเอง นายกรัฐมนตรีควรมีจดหมายไปแสดงอาการเหมือนกับว่า เราพร้อม เรายินดีที่จะเข้าไปร่วมมือเจรจามีจดหมายไป แล้วก็ประชาสัมพันธ์ให้มันชัด เราลองไปดูตัวอย่างของกัมพูชาก็ดี เวียดนามก็ดีซึ่งทางเวียดนามเขาใช้โทรศัพท์เลย แต่ของเราไม่ต้องถึงโทรศัพท์ เพราะเราไม่ได้สนิทกับเขา เราก็ทำเป็นจดหมายเปิดเผย เขาก็จะได้มองว่าโอ้โหเราให้ความร่วมมือเต็มที่ เป็นแบบนี้ก็จะเข้าหลักการเดียวกับประเทศอื่น”

 

อดีตรัฐมนตรีฯคลัง กล่าวอีกว่า การเจรจากับสหรัฐฯ เชื่อว่าไม่น่าจะยาก เพราะเกมนี้ทางประธานาธิบดี “ทรัมป์” ต้องการที่จะขู่ประเทศต่างๆเท่านั้น แต่สุดท้ายเชื่อว่าทุกอย่างจะ WIN WIN

 

“การเจรจาผมคิดว่าไม่ยากเลย เพราะผมอ่านเกมว่าทรัมป์เขาตั้งขู่ไว้เพื่อให้คนยอม เพราะคุณยอมแล้วก็จะลดลงมา แล้วทุกคนก็แฮปปี้ ในลักษณะวินวิน
เพราะฉะนั้นผมคิดว่าการเจรจาไม่ยาก แต่ว่าเริ่มต้นเลยจะต้องเป็นระดับนายกรัฐมนตรีที่แสดงอาการเหมือนกับว่าสนับสนุนแนวคิดของเขา ในการที่จะเข้าไปร่วมแก้ปัญหาต้องออกมาเป็นแบบนี้”

 

จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯอย่างใกล้ชิด เพราะทุกมิติของการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจนั่นเอง

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube