79 ปี ปชป. 17 ปี ภท. ความเหมือนที่แตกต่าง
6 เมษายน ของทุกปี ตรงกับวันก่อตั้งพรรคการเมือง 2 พรรคสำคัญของไทย โดยปีนี้ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองเก่าแก่ที่เดินทางมาสู่ปีที่ 79 ก้าวย่างเข้าปีที่ 17 ทั้ง 2 พรรค ถือเป็นความเหมือนที่แตกต่าง ที่จะสะท้อนการเมืองสนามใหญ่ในอนาคต
2 พรรคการเมืองที่ก่อตั้งมาในวันเดียวกัน 6 เมษายน แต่คนละปี พศ. ความเก่าแก่ต่างกัน ต้องยกให้ค่ายสีฟ้า ประชาธิปัตย์ ปีนี้เดินทางมาสู่ศรรตวรรษที่ 8 ย่างเข้าปีที่ 79 ถือเป็นพรรคการเมืองเดียวที่อยู่มาหลายยุคสมัย มีทั้งช่วงรุ่งเรือง ร่วงโรย และวิกฤต แต่ก็ผ่านมาได้ทุกครั้งด้วยอุดมการณ์พรรค ทุกคนต่างนับถือความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรคที่แต่ละเรื่องต้องเปิดให้อภิปราย แถลงไข โหวตลงมติ แม้ตบตีกันภายใน สร้างรอยร้าวกันแค่ไหน พรรคก็ยังเดินหน้าต่อไปได้ นั่นแสดงให้เห็นถึงว่า “ไม่มีใครเป็นเจ้าของพรรค”
มาถึงยุคนี้ ภายใต้การนำของ “ต่อ เฉลิมชัย ศรีอ่อน” ที่นำทัพจับมือเป็นพันธมิตรร่วมจัดตั้งรัฐบาล “เพื่อไทย” เปลี่ยนประวัติศาสตร์การเมือง จากคู่กัด กลายมาเป็น คู่รัก เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นในอดีต ต่างเรียกตัวเองว่า “รุ่นผลัดใบ” แต่ 25 เสียงที่ไปร่วมรัฐบาลครั้งนี้ ก็ไม่ได้เป็นเอกภาพอย่างที่คิด เพราะยังมี 4 สส. ที่อุดมการณ์ชัดเจนไม่เอา “ทักษิณ” การทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลยุคนี้ พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะจำนวนเก้าอี้ สส. ไม่ได้เฟื่องฟูเหมือนแต่ก่อน ทำได้เพียงทำงานเพื่อประชาชน และรักษาความสัมพันธ์ภายในพรรคให้ตลอดรอดฝั่ง รวมถึงการสร้างเปลี่ยนแปลงในพรรค เพื่อให้ทันโลก สถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นพรรคที่อยู่เคียงข้างประชาชนได้จริง ยุค “ต่อ เฉลิมชัย” ประกาศพร้อมสู้ศึกการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ซื้อเสียง และขอทวงคืนพื้นที่ กทม. กลับคืนมา
งานทำบุญพรรค ปีนี้ ไร้เงา “นายหัวชวน หลีกภัย” ที่อ้างติดภารกิจไปต่างประเทศ แต่บรรยากาศภายในพรรค ลานพระแม่ธรณี ยังคงคึกคัก ไฮไลต์ อยู่ที่ การอวยพรวันเกิดพรรค เป็นครั้งแรกของพรรคเพื่อไทย ที่ส่ง “สรวงศ์ เทียนทอง” เลขาธิการพรรค มาร่วมแสดงความยินดี รวมถึงพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ส่งตัวแทนมาไม่ขาดสาย
เช่นเดียวกับค่ายสีน้ำเงิน ภูมิใจไทย ก้าวเข้าสู่ปีที่ 17 อย่างเข้มแข็ง ทั้งจำนวนเสียงในรัฐบาล ฐานเสียงที่เริ่มแข็งแกร่งครอบคลุมทั่วประเทศ โดยปีนี้ เปลี่ยนโลโก้เป็น “พรรคสีน้ำเงิน” ล้วน ไม่มีสีแดง พร้อมเดินหน้าการเมือง แบบสันติ สามัคคี เทิดทูนสถาบัน นำทัพโดย “หนู อนุทิน ชาญวีรกูล” 16 ปี ที่ผ่านมา พรรคยึดหลักทำงานกันทุกวัน ไม่มีวันหยุด สมาชิกพรรคภูมิใจไทย เข้าไปทุกพื้นที่ที่ประชาชนมีปัญหา
เพราะคนภูมิใจไทย เป็นแบบนี้ จึงเป็นเหตุให้พรรคเติบโตขึ้นทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง พี่น้องประชาชน ไว้ใจ เชื่อใจ จำนวน สส.ที่เพิ่มขึ้น คือ คำตอบ ว่า การทำงานของพรรคภูมิใจไทย เป็นที่ชื่นชอบ ของประชาชนมากขึ้นหรือไม่ “หัวหน้าหนู” ถึงกับประกาศลั่น เลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ว่าจะมีขึ้นเมื่อไร พรรคภูมิใจไทย จะเติบโตมากขึ้นกว่าปัจจุบัน จะได้รับโอกาส และความไว้วางใจจากประชาชนมากขึ้นอีก เช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
ความเหมือนที่แตกต่างของ 2 พรรคนี้ แม้จะก่อตั้งวันเดียวกัน ระยะทางการเมืองต่างกัน ค่ายสีฟ้า 79 ปี ค่ายสีน้ำเงิน 17 ปี อยู่พรรคร่วมรัฐบาลเป็นพันธมิตรกัน ถือเป็นพรรคพี่ พรรคน้อง ที่ร่วมหัวจมท้ายมาตลอด แต่ในสนามเลือกตั้งระดับชาติ ไม่มีใครยอมใคร ไม่มีความเป็นพี่น้อง มีแค่ความเป็นที่ 1 ช่วงชิงเก้าอี้ สส.ในสภามาให้ได้มากที่สุด
ย้อนไปการเลือกตั้ง ปี 62 ที่ค่ายสีฟ้าตั้งเป้า สส. มากกว่า 52 แต่ได้จริงเพียง 25 ที่นั่ง ส่วนค่ายสีน้ำเงิน ได้มาถึง 72 ที่นั่ง สะท้อนถึงอำนาจการต่องรองทางการเมืองอย่างชัดเจน หลายคนมองพรรคเก่าแก่กำลังขาลง อีกพรรคกำลังไต่เต้า ขยับเก้าอี้ได้ทุก 4 ปี ดังนั้น ศึกเลือกตั้ง ปี 70 นี้ จึงเป็นความท้ายของค่ายสีฟ้า ที่ต้องรักษาฐานเสียงเก่าให้แน่น แต่ความแข็งแกร่งของค่ายสีน้ำเงิน ก็คืบคลานโซนภาคใต้เข้ามาเรื่อยๆ เช่นกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
