Home
|
ข่าว

นายกฯถกภาษี “ทรัมป์” ส่งออกทรุด-GDPโตไม่ถึง1%

 

 

 

 

ภาพคนอเมริกาลุกฮือ ประท้วงผู้นำสหรัฐฯ “นายโดนัลด์ ทรัมป์” หลังประกาศขึ้นภาษีนำเข้าแบบสุดโหดเป็นประเด็นที่ทั่วโลกเฝ้าติดตาม นั่นเพราะไม่เพียงแต่คนอเมริกาจะซื้อสินค้าในราคาที่สูงแล้วยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก เพิ่มความเสี่ยงทวีคูณมากขึ้นอีกด้วย

 

 

 

 

สำหรับประเทศไทยนั้น ถูก “ทรัมป์” ประกาศเรียกเก็บภาษีตอบโต้สูงถึง 36% ในทุกๆ รายการ เบื้องต้นทางฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง ประเมินว่า จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาคการส่งออกไทย เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยที่มีสัดส่วนการส่งออกกว่า 18.3% ของมูลค่าการส่งออกไทยทั้งหมด

 

และหากประเมินผลกระทบในเชิงตัวเลข ก็อาจจะเห็นตัวเลขการส่งออกที่หดตัวต่ำกว่า 1% และอาจเห็น GDP ของไทยในปี 2568 ลงไปแตะ 1% หรือต่ำกว่า โดยเฉพาะในกรณีที่สงครามการค้ายืดเยื้อ

 

ทั้งนี้ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง “นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หากการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐลดลง แน่นอนว่า ผลกระทบจะส่งตรงไปถึงภาคแรงงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

“ถ้าเราส่งออกไปอเมริกาแล้วลดฮวบลงไปเลยการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมในไทยที่ส่งออกไปอเมริกา เขาจะต้องเบรคโอทีก็ไม่มี เผลอๆ คนงานก็ต้องเอาออกไปครึ่งนึง เป็นแบบนี้ในแง่ของคนงานไทยที่ตกงาน ก็ทำให้ทุกอย่างในประเทศนี้ไม่ดี เพราะฉะนั้นในแง่ของเราเองถึงแม้ว่างานนี้มันจะเป็นของต่างชาติ จำนวนไม่น้อยอาจจะเป็นบริษัทอเมริกันด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม เราก็คำนึงถึงคนงานของเราที่ทำงานกับเขา ถ้าเขาส่งออกไปอเมริกาแล้วติดขัดการจ้างงานในประเทศของเรา มันก็จะต้องอ่อนลง”

 

ขณะที่ “รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ” คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่า การทำงานเชิงรุกเพื่อรับมือกับผลกระทบจากภาษีตอบโต้ทางการค้าของสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยไม่ให้จีดีพีของไทยขยายตัวต่ำกว่า 2% หากไม่สามารถเจรจาลดภาษีได้เลย มีโอกาสเช่นเดียวกันที่อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยอาจติดลบถ้าภาคส่งออกติดลบเกิน 5%

 

ทั้งนี้ การเก็บภาษีสินค้าไทยเพิ่มอีก 36% จากภาษีนำเข้าพื้นฐาน 10% อาจทำให้สินค้าส่งออกสหรัฐฯสูงสุด 5 อันดับแรกย้ายฐานการผลิต โดยสินค้า 15 รายการที่ส่งออกไปสหรัฐฯสูงสุดส่วนใหญ่เป็นของบริษัทข้ามชาติที่ใช้ไทยเป็นฐานผลิตส่งออก ยกเว้น ข้าว อาหารสัตว์และเครื่องนุ่งห่ม แม้สินค้าหลายตัวผลิตโดยบรรษัทข้ามชาติแต่โรงงานอยู่ในประเทศไทย เสียภาษีเงินได้ให้ไทย ย่อมกระทบต่อจีดีพีไทย กระทบต่อเศรษฐกิจไทยกระทบต่อการจ้างงานในประเทศ เมื่อการส่งออกเหล่านี้ลดลงอย่างมากจากกำแพงภาษีย่อมส่งผลต่อกระแสรายได้การขยายของการผลิตในประเทศ ปัญหาการย้ายฐานผลิตของบรรษัทข้ามชาติในไทยจะเร่งตัวขึ้นหากประเทศอาเซียนอื่นๆ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ หรือ มาเลเซียสามารถรีบไปเจรจาต่อรองได้ก่อนและเจอกับภาษีนำเข้าต่ำกว่า

 

จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาการเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐฯอย่างใกล้ชิด ซึ่งล่าสุดนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ได้เรียกประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานเกี่ยวกับมาตรการการค้าสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 8 เมษายนที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อสรุปแนวทางเจรจาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศไทยต่อไป

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube